ผู้ว่าฯ ขู่ปิดถาวรผับดังราชบุรี หากเกิดเหตุซ้ำซาก หลังถูกสั่งปิด 60 วัน

ความคืบหน้า เหตุอุกอาจยิงกันในผับ โรงเหล้าเพชรเกษม จ.ราชบุรี จากการทะเลาะวิวาท ทำให้มีนักเที่ยวได้รับบาดเจ็บ และวิ่งหนีตายกันอย่างชุลมุน เมื่อช่วงกลางดึกวานนี้  (17 ส.ค.) ซึ่งภายหลังตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยสองรายพร้อมอาวุธปืน ขณะที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งปิด 60 วันหลังเกิดเหตุขึ้นหลายครั้ง (อ่านข่าว)

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (18 ส.ค.) นางธวัลรัตน์ ถึงชุมพร อายุ 60 ปี แม่ของนายจีรศักดิ์ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา หรือ นายโย่ง อายุ 30 ปี ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เพื่อให้ช่วยหามือปืนที่ก่อเหตุ และหาผู้รับผิดในเหตุการณ์นี้ พร้อมเผยว่า ตอนนี้ลูกอาการยังน่าเป็นห่วง มารู้ว่าลูกถูกยิงในช่วงหลังเกิดเหตุ ก็เดินทางไปที่โรงพยาบาลทันทีเพื่อดูอาการ โดยเมื่อคืนที่ลูกชายมาเที่ยวเพราะเห็นบอกว่ามาดูดนตรี แต่มากี่คนนั้นไม่ทราบ แต่เมื่อลูกเจ็บก็ต้องมาแจ้งความไว้ก่อน
 

ส่วนคำสั่งปิดสถานบริการ 60 วัน นั้น นายรณภพ เหลืองไพรโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดราชบุรี ที่ 2867/2565 สั่งพักใช้ใบอนุญาตสถานบริการ โรงเหล้าเพชรเกษม โดยให้นายรนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ นายอำเภอเมืองราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำหนังสือคำสั่งไปปิดที่หน้าประตูทางเข้า ออก และทางด้านหน้าของสถานบันเทิง พร้อมทั้ง มอบหนังสือคำสั่งดังกล่าวให้กับนายวรวิทย์ ไชยธรรม ผู้จัดการสถานบันเทิง เพื่อให้ปฏิบัติตามคำสั่งของทางจังหวัดราชบุรีอย่างเคร่งครัด

นายรนัสถ์ชัย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และ มีการใช้อาวุธปืนยิงกันในสถานบันเทิงตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปนั้น วันนี้ทางจังหวัดราชบุรี ได้ออกหนังสือประกาศคำสั่งจังหวัดราชบุรีพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 60 วัน โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

ส่วนสาเหตุของการออกคำสั่งคือ ทางอำเภอได้รับรายงานการกระทำความผิดต่อใบอนุญาต จำนวน 3 ครั้ง มีการจับกุมการกระทำความผิดที่สถานบริการแห่งนี้ถึง 4 ครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งฝ่ายปกครองว่า สถานประกอบการไม่ได้มีการปฏิบัติตามมาตรการที่ขอไว้ จึงได้มีการพิจารณาลงโทษในครั้งนี้

ตอนนี้ทางฝ่ายปกครองได้ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เรียกประชุมผู้ประกอบการสถานบันเทิงทุกราย มาพูดคุยย้ำถึงมาตรการ และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจอย่างเข้มงวด หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายทันที หากฝ่าฝืนทำผิดซ้ำซาก จะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตกับสถานบันเทิงนั้นทันทีเช่นกัน