เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
หลังจากมีการประกาศปลดล็อกกัญชา ซึ่งได้มีการใช้เพื่อทางการแพทย์ ขณะที่กลุ่มคนบางกลุ่มได้นำไปใช้ในวัตถประสงค์อื่น จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนในสังคมถึงเรื่องกฎหมายควบคุมและข้อกำกัดเรื่องการใช้กัญชานั้น ล่าสุด “กระทรวงสาธารณสุข” ได้แจ้งหนังสือไปยัง “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เรื่องการดำเนินคดีกับผู้ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัย หรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า
โดยเนื้อหาโดยสรุประบุว่า เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กระทรวงสาธารณสุข
จึงขอแจ้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริม
ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีกับบุคคลหรือนิติบุคคลใด
ที่ไม่ดำเนินการตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ในกรณีดังต่อไปนี้
1.ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัยกัญชา
2. ไม่ขออนุญาตส่งออกกัญชา
3. ไม่ขออนุญาตจำหน่ายกัญชา
4.ไม่ขออนุญาตแปรรูปกัญชาเพื่อการค้า
เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสมุนไพรและการใช้ประโยชน์พืชกัญชาทางการแพทย์ และเพื่อให้เป็นไปตาม
วัตถุประสงค์ของประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565
ทั้งนี้ ตามบทบัญญัติในมาตรา แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 แปรรูป หมายความว่า การปรุงแต่งหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพหรือคุณสมบัติของสมุนไพร ดังนั้น เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กรณีที่บุคคลหรือนิติบุคคลใดไม่ดำเนินการตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 หากพบการกระทำผิดกรณีไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัย ไม่ขออนุญาตส่งออก ไม่ขออนุญาตจำหน่าย ไม่ขออนุญาต แปรรูปกัญชาเพื่อการค้า ต้องดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติตังกล่าวด้วย
ขณะที่ นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ได้มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วยว่า “มาช้าดีกว่าไม่มา ! สธ.แจ้งสตช.แจงความผิดค้ากัญชา หนังสือจากสาธารณสุขถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าแทบทุกกิจกรรมเกี่ยวกับกัญชาที่เกิดขึ้นเต็มบ้านเต็มเมืองขณะนี้หากไม่ได้ขออนุญาต ผิดทั้งนั้น ทั้งนี้ตามมาตรา 46 พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผยไทย พ.ศ. 2542 ที่ผมพร่ำย้ำมาหลายครั้ง หนังสือฉบับนี้ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2565 แต่ก็ยังดี มาช้าดีกว่าไม่มา”
“ก็รอดูต่อไปว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจะประสานการปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัดเพื่อคลายใจให้กับสังคมต่อไปอย่างไร เพราะเท่าที่ทราบ ขณะนี้ยังไม่มีการขออนุญาตและให้อนุญาตผู้ใดเลย”