ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ลุยน้ำท่วม 7 จุด หาสาเหตุ พบคลองน้ำล้นระบายลงเจ้าพระยาช้า

วันที่ 21 กรกฎาคม 2565 วานนี้ตั้งแต่เวลา 19.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำและส่วนที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ ถนนพัฒนาการรวม 7 จุด เพื่อตรวจดูปัญหา และผลกระทบจากผลตกหนัก จนส่งผลให้น้ำท่วมขังและการจราจรติดขัด

โดยเริ่มจุดแรกที่ ถนนบางนา-ตราด ตัด ถนนศรีนครินทร์ ลงเดินต่อเนื่องมาจนถึงบริเวณวัดศรีเอี่ยม ซึ่งจุดนี้น้ำยังท่วมพื้นผิวการจราจรส่งผลให้รถชะลอตัวและติดขัด ใช้การจราจรได้ช่องขวาสุดทางเดียว จากเดิมบริเวณจุดนี้ไม่ได้ท่วมหนักมากกว่า 2 ปีแล้ว

จากนั้น ไปดูปัญหาที่เป็นต้นตอทำไมคลองเคล็ดระบายได้ช้า โดยขึ้นรถบรรทุกหน่วยบริการเร่งด่วน ของสำนักการโยธาฯ กทม. (BEST) พร้อมกับสื่อมวลชน มุ่งหน้าไปยังถนนอุดมสุข คือ ช่วงสะพานข้ามคลองเคล็ด ซึ่งเป็นเส้นทางก่อสร้างโครงการอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน ซึ่งจุดนี้เมื่อช่วงเดือน กุมภาพันธ์ เกิดถนนทรุดตัว เป็นผลให้การก่อสร้างล่าช้า และส่งผลต่อการระบายน้ำจากเดิมระบายน้ำได้ 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เหลือเพียง 2 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เท่านั้น ซึ่งน้ำที่สะสมอยู่บนถนนศรีนครินทร์ จะต้องไหลลงคลองเคล็ด และลงสู่เจ้าพระยา จึงทำให้ระบายได้ช้า

นายชัชชาติ กล่าวว่า การแก้ปัญหาระยะสั้นคือ การเพิ่มเครื่องสูบน้ำให้มากที่สุด เพราะทุกอย่างถือเป็นวิทยาศาสตร์ ถ้าถามว่าทำไมน้ำท่วมบริเวณจุดนี้ ก็เป็นเพราะคลองเคล็ดไม่ระบาย ทั้งนี้หากก่อสร้างอุโมงค์บึงหนองบอนเสร็จ ก็เชื่อว่าจะสามารถทำให้การระบายน้ำดีขึ้นมาก เพราะบริเวณคลองเคล็ดสามารถระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้เลย และอุโมงค์บึงหนองบอน จะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฝั่งตะวันออก ในรัศมีกว้างถึง 80 กิโลเมตร และอนาคตก็จะต้องขุดลอกคลองให้ดีด้วย

จากนั้นนายชัชชาติ ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดที่สาม ทางรถไฟหัวหมาก ถนนศรีนครินทร์ ซึ่งบริเวณจุดนี้ น้ำยังท่วมพื้นผิวการจราจร ทำให้รถชะลอตัวและสัญจรได้ช้าเช่นกัน โดยจุดนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ของกทม. ชุดที่คอยช่วยเหลือรถชัดข้องสแตนบายอยู่ด้วย

จุดที่ 4 ถนนกำแพงเพชร 7 (เลียบทางรถไฟหัวหมาก) จุดที่ 5 ซอยพัฒนาการ 58 จุดที่ 6 ซอยพัฒนาการ 54 ซึ่งสองจุดนี้ลักษณะพื้นที่จะเป็นทางที่เชื่อมต่อไปยัง ถนนศรีนครินทร์ น้ำยังท่วมขังภายในซอย

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า บริเวณ สองจุดนี้ ซอยพัฒนาการ เป็นจุดที่มีคลองเยอะ และเป็นจุดที่เชื่อมต่อไปยังหัวหมาก คลองตัน และสถานีสูบน้ำพระโขนง และเมื่อวานฝนตกในพื้นที่หนักมา 160 มิลฯ ทำให้น้ำในคลองเอ่อขึ้นมา และระบายออกช้าเพราะมีน้ำเติมตลอด หลักการก็คือ ต้องรอให้คลองยุบลงแล้วเร่งสูบออก เพื่อระบายลงสู่เจ้าพระยา แม้แถวนี้จะมีคลองเยอะแต่น้ำเต็ม ส่วนในอนาคตที่จะทำให้สามารถรับน้ำได้เพิ่ม ก็ต้องรอให้ระบบการก่อสร้างต่างๆแล้วเสร็จ และต้องเพิ่มขนาดของท่อให้กว้างขึ้น แต่ปัญหาคือตัวคลองเป็นหลัก ทั้งนี้ ยอมรับว่า ยังห่วงฝนที่จะตกลงมาอีก แม้ตอนนี้จะพร่องน้ำได้ 10 %แล้ว แต่หากฝนมาอีกก็จะเต็มเร็วกว่าเดิม

กรมอุตุฯ จะคาดการณ์ว่าฝนจะตกไปจนถึงวันที่ 24 ก.ค.นั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า ”ไม่เป็นไร ขอให้มีเวลาหายใจให้น้ำออกได้ เพื่อหมุนเวียนออกไป แต่อย่าตกติดกันเพราะจะไม่มีเวลาพร่องน้ำ และกทม.ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุดและเต็มที่ สู้ไม่ถอย แม้ฝนจะตกหนักมาก แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด วันนี้ก็ส่งหน่วยงานๆมาข่วยเหลือประชาชน โดยนำอุปกรณ์เท่าที่มีมาช่วยกัน อย่างซอยพัฒนาการ54 ก็จะมีรถของกทม.วิ่งเข้าไปส่งประชาชนด้านในด้วย”

จากนั้นลงพื้นที่ไปยังจุดสุดท้าย  ซอยอุดมสุข 39 ซึ่งจุดนี้น้ำยังท่วมเส้นทางการจราจรเช่นกัน โดยทุกจุดนั้น ได้สั่งการให้เร่งระบายน้ำ และดูแลประชาชน ซึ่งการลงพื้นที่วันนี้ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง เกือบ 5 ทุ่ม จึงเสร็จภาระกิจ

ทั้งนี้ ระหว่างการเดินทางตรวจจุดปัญหาน้ำท่วม นายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ หรือน้องแสนดี บุตรชายของ นายชัชชาติ ได้วิดีโอคอลมาหาจาก สหรัฐอเมริกา เพราะที่นั่นเป็นเวลาช่วงเช้าประมาณ 8 โมง โดยนายชัชชาติ บอกว่า กำลังลงพื้นที่น้ำท่วมอยู่ กับนักข่าว และให้นักข่าวได้ทักทาย น้องแสนดี โดยน้องแสนดี ได้ให้กำลังใจนายชัชชาติ ว่า “You can do it”