นายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม โพสต์เพจเฟซบุ๊ก "ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ระบุว่า
"ตั้งแต่น้องๆนักเจ็ทสกีทีมชาติไทย มาหาผมเมื่อ 5 วันก่อน บอกว่าพวกน้องจะไปแข่งในนามทีมชาติไทยที่ประเทศโปแลนด์ เลื่อนตั๋วมาครั้งหนึ่งแล้ว ถ้าไม่ทันรอบนี้คงไม่ทันแข่งในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้แน่ๆ"
ผมถามว่าติดปัญหาอะไร น้องๆบอกผมว่าเอเย่นต์ ที่สมาคมประสานให้รับผิดชอบทำวีซ่า เอาพาสปอร์ตของน้องๆไปตั้งนานแล้วไม่ทำอะไร ดองไว้ จนใกล้จะถึงกำหนด ตอนนี้ยังไม่ได้คิวสัมภาษณ์เพื่อทำวีซ่าเลย แล้วจะต้องเดินทางในวันที่ 17 กลัวจะไม่ทัน เลยมาหาผมให้ช่วยน้องๆด้วย
ผมก็รับปากไปว่าผมจะโพสต์ให้ แล้วเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาช่วยดูเรื่องนี้ เพราะไปแข่งครั้งนี้มันเป็นการแข่งในนามทีมชาติ และน้องๆก็เสียเงินกันไปเยอะมาก แต่พี่ตั้มไม่รับปากว่าจะสำเร็จหรือเปล่านะ แต่จะทำให้!!
หลังจากผมโพสไปก็มีสื่อหลายสื่อที่เห็น แล้วช่วยกันนำเสนอข่าว จนเป็นกระแสว่าน้องๆอาจจะพลาดการไปแข่งขันในนามทีมชาติ
พอกลับมาบ้านผมคิดขึ้นได้ว่าเราควรจะขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ จึงโทรไปปรึกษากับพี่แรมโบ้อีสาน รบกวนให้พี่แรมโบ้ช่วยประสานกับท่านนายกฯให้หน่อย เพราะหากปล่อยไปโอกาสที่น้องๆจะได้ไปโชว์ฝีมือที่โปแลนด์แทบจะเป็นศูนย์
คืนนั้นลุงตู่ ทราบเรื่องได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศประสานไปยังสถานทูตทันที ว่ามีอะไรติดขัดอะไรยังไง เวลาก็กระชั้นชิดมาก พวกผมก็ลุ้นว่าจะทันไหม เพราะคนที่เคยไปโปรแลนด์มาก่อน ก็จะทราบดีว่าวีซ่าที่นี่ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร
จนในที่สุดวีซ่าน้องๆออกทันไปแข่งพอดี แบบเส้นยาแดงผ่าแปด ผมในฐานะตัวแทนของน้องๆ ขอกราบขอบพระคุณ พี่ๆสื่อมวลชนทุกสำนัก พี่แรมโบ้อีสานที่ประสานให้ทุกอย่าง ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่เร่งรัดและตามผลให้แทบจะทุกชั่วโมง และที่สำคัญที่สุด ต้องขอบคุณลุงตู่ แสนรัก ที่ช่วยน้องๆได้ไปทำตามความฝัน และมีโอกาสสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยนะครับ เลิฟ เลิฟ
ท้ายที่สุด ตอนนี้น้องๆน่าจะอยู่บนเครื่อง พี่ตั้มและเอฟซีทุกคน ขอให้น้องๆเดินทางโดยปลอดภัย แข่งชนะได้แชมป์กลับมาเป็นของขวัญให้คนไทยทุกคนด้วยนะครับ"
หลังโพสต์นี้เผยแพร่ มีผู้เข้าไปชื่นชมเป็นจำนวนมาก ทั้งในส่วนของตัวทนายตั้ม นายกรัฐมนตรี และตัวประสานอย่างแรมโบ้อีสานเอง