svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

"อดีตเจ้าหญิงมาโกะ" จะลำบากไหมถ้าสามีสอบเนติบัณฑิตไม่ผ่าน

17 กรกฎาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สื่อญี่ปุ่น Dailyshincho พาดหัวข่าวเป็นการตั้งคำถามว่า "มีเรื่องร้ายแรงอะไรที่กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ถึงกับต้องเข้าพบนายและนางโคมุโระ" ส่วนเนื้อหาข้างในพูดถึง "การแต่งงานที่ฉ้อฉล" หรือว่าเกิดอะไรขึ้นที่คนญี่ปุ่นจำเป็นต้องรับรู้!!

เมื่อปลายเดือนที่แล้วสื่ออังกฤษ DailyMail เพิ่งเผยแพร่ภาพของอดีตเจ้าหญิงมาโกะกับสามีสามัญชน เคอิ โคมุโระ เดินกุมมือกันอย่างอบอุ่นที่นครนิวยอร์ก โดยฝ่ายหญิงแต่งตัวสบาย ๆ สะพายกระเป๋าใบใหญ่ของ Amish Market ส่วนฝ่ายชายสวมสูทและหิ้วกระเป๋าแล็ปท็อป คู่สามีภรรยาที่อยู่ในวัย 30 คู่นี้ ดูจะมีความสุขในการใช้ชีวิตที่นิวยอร์ก และอาจจะไม่เดือดร้อนกับปัญหาเงินเฟ้อ ที่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศกำลังเผชิญอยู่ มีเพียงเรื่องเดียวที่อาจรบกวนจิตใจของพวกเขา นั่นคือเคอิกำลังเตรียมตัวสอบเนติบัณทิตอีกเป็นครั้งที่ 3 และเขา "จะสอบได้หรือไม่"

 

"อดีตเจ้าหญิงมาโกะ" จะลำบากไหมถ้าสามีสอบเนติบัณฑิตไม่ผ่าน

 

เมื่อมองย้อนกลับไปตอนที่ทั้งสองกำลังเตรียมจะแต่งงานกัน มาโกะยอมสละฐานันดรเพื่อชายอันเป็นที่รัก และไม่ยอมรับเงินชดเชยใด ๆ ขณะที่ฝ่ายชายก็บอกเพียงว่ากำลังเตรียมตัวเป็นทนายในบริษัทใหญ่โตที่นิวยอร์ก นั่นหมายความว่าทางมกุฎราชกุมารระฟูมิฮิโตะ อากิชิโนะโนะมิยะ พระบิดาของไอโกะ ถูกทำให้เชื่ออย่างสนิทใจว่า เคอิกำลังจะเป็นทนายความที่มีรายได้ให้ครอบครัวพึ่งพาได้ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าอาชีพทนายในสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในอาชีพที่ทำรายได้สูงมาก

 

"อดีตเจ้าหญิงมาโกะ" จะลำบากไหมถ้าสามีสอบเนติบัณฑิตไม่ผ่าน

 

แต่หลังจากแต่งงานก็มีข่าวตามมาว่า เคอิยังสอบเนติบัณทิตไม่ผ่าน ทั้งยังเป็นการสอบครั้งที่ 2 แล้ว... ก่อนหน้านี้เคอิได้ชี้แจงต่อยาซูฮิโกะ นิชิมูระ เลขาธิการสำนักพระราชวังผ่านบุคคลที่ 3 เมื่อเดือนกรกฎาคม เรื่องการสอบไม่ผ่านครั้งแรกและบอกว่า

 

"ไม่เป็นไร สอบใหม่ได้ และไม่อยากให้เรื่องนี้สร้างความไม่สบายใจให้มาโกะ"

 

"อดีตเจ้าหญิงมาโกะ" จะลำบากไหมถ้าสามีสอบเนติบัณฑิตไม่ผ่าน

 

แต่ในช่วงปลายเดือนนี้เคอิจะต้องเข้าสอบเป็นครั้งที่ 3 และ เขาจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดแน่นอนว่า จะผ่านหรือไม่ และการที่เขาได้แต่งงานกับมาโกะโดยที่ยังมองไม่เห็นโอกาสว่าจะได้เป็นทนายความนั้น "เป็นการฉ้อฉลหรือไม่" และเขาจะพาอดีตเจ้าหญิงที่เคยเป็นที่รักของปวงชนไปลำบากหรือไม่ เพราะแม้จะใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชน แต่ความเป็นอยู่โดยเฉพาะเรื่องอาหารสำหรับมาโกะ มันไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะมีปัญญาซื้อมายังชีพได้ ยิ่งคุณภาพสูงเท่าไหร่ราคาก็ยิ่งแพงขึ้นเท่านั้น ดูจากกระเป๋า Amish Market ที่เธอสะพาย ก็บ่งชี้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่สถานที่สำหรับทุกคน แต่เฉพาะคนที่กระเป๋าหนักเท่านั้น มาโกะผู้ไม่เคยลำบากอาจไร้เดียงสาเกินกว่าจะรู้ว่า อะไรที่รออยู่เบื้องหน้า

 

"อดีตเจ้าหญิงมาโกะ" จะลำบากไหมถ้าสามีสอบเนติบัณฑิตไม่ผ่าน

 

ริคกี้ โทกุนากะ ทนายความในนิวยอร์ก ให้ความเห็นว่า เคอิกำลังเดินเข้าสู่สถานการณ์ที่วิกฤต ยิ่งเขาถือคติ "ปล่อยให้มันเป็นไป" (let it be) มากเท่าไหร่ อนาคตก็ยิ่งพร่ามัวมากขึ้นเท่านั้น... มันเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาที่จะสอบผ่าน New York Bar Exam โดยเปอร์เซ็นต์ของผู้สอบผ่านครั้งแรก ในการสอบเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วอยู่ที่ 78% ก็จริง แต่อัตราการผ่านสำหรับชาวต่างชาติจาก 46% ลดลงเหลือ 17%

 

"สำหรับผู้ที่สอบซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้งอย่างเคอิ ถือว่าเจองานหิน เพราะงานของเขาก็คือเสมียนทนายความ และงานอื่น ๆ เช่น การวิจัยในสำนักงาน ไม่ได้เชื่อมโยงกับการสอบโดยตรง ดังนั้นการทำงานจนดึกดื่นไม่ได้ช่วยอะไร เขาต้องกลับไปเรียนและอุทิศเวลาพักร้อนทั้งหมดให้กับการเรียน มันเป็นเรื่องใหญ่มาก"

 

 

"อดีตเจ้าหญิงมาโกะ" จะลำบากไหมถ้าสามีสอบเนติบัณฑิตไม่ผ่าน

กรณีกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ได้เข้าพบคู่สามี-ภรรยาโคมุโระนั้น ข่าวบางกระแสระบุว่า เป็นเพียงการแจ้งเรื่องที่ว่าจะให้คำแนะนำในเรื่องที่คู่นี้ต้องการความช่วยเหลือในขณะใช้ชีวิตที่นิวยอร์ก รวมทั้งการตั้งครรภ์และแนะนำโรงพยาบาลที่ดีให้ และการอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ถ้าจำเป็น เมื่อมีการเอ่ยถึงความเป็นไปได้เรื่อง "ลูก" ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ด้วยสภาพสถานการณ์ในปัจจุบัน พบว่าค่าครองชีพในนิวยอร์กยังคงติดอันดับสูงที่สุดในโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังพุ่งไม่หยุด ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนพุ่งขึ้นอย่างน่ากลัว

 

"อดีตเจ้าหญิงมาโกะ" จะลำบากไหมถ้าสามีสอบเนติบัณฑิตไม่ผ่าน

 

เมื่อย้อนกลับมาดูค่าใช้จ่ายของครอบครัวโคมุโระ ค่าเช่าอะพาร์ตเมนต์ของพวกเขาอยู่ที่ประมาณเดือนละ 500,000 เยน แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปอีกตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และในฐานะผู้นำครอบครัว เคอิจะหายรายได้มาซัพพอร์ตครอบครัวได้อย่างไร ในขณะที่เขายังไม่ได้ยึดอาชีพทนายความจริง ๆ โดยเฉพาะค่าอะพาร์ตเมนต์ปีละ 6 ล้านเยน

 

ยังไม่รวมค่าอาหารที่ต้องบวกเพิ่มอย่างน้อย 20% และยังมีภาษีมูลค่าเพิ่ม ขนาดกาแฟของ Dunkin Donuts ที่เคยมีราคาแก้วละ 1.19 ดอลลาร์ ยังเพิ่มเกือบ 2 เท่า เป็น 2.21 ดอลลาร์ ต่างจากบริษัทญี่ปุ่นที่มีวัฒนธรรมพยายามดึงกำไรสะสมมาประคับประคองสถานการณ์ ไม่ผลักภาระให้ผู้บริโภค ต่างจากสหรัฐฯ ที่ให้ผู้บริโภคก้มหน้ายอมรับค่าครองชีพที่สูงขึ้น เช่น ขนมปังและพาสตาขึ้นพร้อมกับราคาข้าวสาลี แซลมอนรมควัน ไวน์, ปลาแม็คเคอเรลของโอโตยะ ล้วนขึ้นราคาทั้งหมด ...แต่สำหรับมาโกะ ดูเหมือนเธอจะไว้ใจอยู่ที่เดียว คือ Amish Market และตอนนี้ ชาวญี่ปุ่นกำลังใจห่วงใยว่าเงิน 100 ล้านเยน ที่มาโกะนำติดตัวมา จะประคับประคองครอบครัวของเธอไปได้อีกนานแค่ไหน!!!!

 

"อดีตเจ้าหญิงมาโกะ" จะลำบากไหมถ้าสามีสอบเนติบัณฑิตไม่ผ่าน

logoline