svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

โจ๋ 19 คึก ยกพวกบุกฟันหัวหนุ่มช่างซ่อมรถเจ็บ 2 อ้างถูกท้าทายก่อน

16 กรกฎาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

4โจ๋ วัย 19 คึก! ยกพวกบุกฟันหัวหนุ่มช่างซ่อมรถเจ็บ 2 อ้างถูกท้าทายก่อน สุดท้ายพูดคุยปรับความเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ทราบว่า ทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิด

16 กรกฎาคม 2565 คลิปวงจรปิดอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งในอำเภอวารินชำราบบันทึกภาพเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่น 6 คน ยกพวกเข้าทำร้ายกันหน้าอู่ใน  ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกฟันศีรษะและหลัง 2 ราย หลังเกิดเหตุเจ้าของอู่ส่งเรื่องลงโซเชียล ตามหาตัวผู้ก่อเหตุ

 

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณอู่ที่เกิดเหตุริมถนน  วาริน-เดชอุดม พบนายณรัณ ไชยโคตร  อายุ 26 ปี เจ้าของอู่ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วง ตี 5 ของวันที่ 14 ก.ค.65 ผู้บาดเจ็บชื่อนายการันต์  ศรีทาป อายุ 24 ปี ลูกจ้างของอู่ถูกฟันที่ศีรษะ ถูกนำตัวส่งที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และนาย นายวรภพ  วันดี  อาย 21 ปี เพื่อนของนายการันต์ ถูกฟันที่หลังเย็บ 4 เข็ม 
 

นายณรัณ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนอนที่อู่เกิดเหตุ  นายธีรพล  พรชู  22 ปี  ลูกน้องของอู่ไปเที่ยวงานหมอลำที่ตลาดเจริญศรีแล้วถูกลุ่มวัยรุ่นไล่ทำร้ายก่อนจะวิ่งไปหลบซ่อนในร้านสะดวกซื้อหน้าตลาด   โดยมีกลุ่มวัยรุ่นดักรอที่หน้าร้านสะดวกซื้อไม่สามารถออกมาได้   จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอให้นายการันต์ นายวนรภพ ออกไปรับกลับมาที่อู่ โดยที่ทั้งคู่ถือไม้ไปป้องกันตัวจากกลุ่มวัยรุ่นหน้าร้านสะดวกซื้อ

โจ๋ 19 คึก ยกพวกบุกฟันหัวหนุ่มช่างซ่อมรถเจ็บ 2 อ้างถูกท้าทายก่อน

นายการันต์ อ้างว่า เมื่อไปถึงกลับถูกกลุ่มวัยรุ่นหน้าร้านสะดวกซื้อขับรถไล่ตามจึงต้องหนีกลับมาที่อู่  กลุ่มวัยรุ่นตามมาทันก็ลงจากรถวิ่งเข้าทำร้ายตนเองกับนายวรภพ  ขณะนั้นเกิดการชุลมุนมี 1 ในกลุ่มคู่กรณีถือมีดเข้ามาฟันตนเข้าที่ศีรษะและหลังของนายวรภพจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่นายณรัณ  เจ้าของอู่จะเปิดประตูออกมาทำให้กลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีหลบหนีออกไป
 

หลังจากที่เกิดเหตุนำตัวนายการันต์ และนายวรภพ ส่งโรงพยาบาลและออกตามหากลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ แต่ก็ไม่พบมีเพียงข้อมูลว่าในกลุ่มผู้ก่อเหตุมีญาติเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการตามตัวผู้ก่อเหตุจึงได้ส่งเรื่องให้เพจบ้านเฮียชาญ และเพจดังต่างๆในจังหวัดเพื่อหาเบาะแสตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

 

ล่าสุดกลุ่มแอดมินเพจบ้านเฮียชาญ ได้เข้ามาสอบถามรายละเอียดและประสานงานจนสามารถทราบตัวผู้ก่อเหตุเบื้องต้นทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย นายเอ บี ซี ดี (นามสมมุติ)  อายุ 19 ปี  ทางเพจบ้านเฮียชาญจึงได้มีการประสานให้ทั้งหมด เข้ามาพบและพูดคุยกับทางคู่กรณีถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยนายการันต์ผู้บาดเจ็บออกจากโรงพยาบาลมาพูดคุยด้วย

โจ๋ 19 คึก ยกพวกบุกฟันหัวหนุ่มช่างซ่อมรถเจ็บ 2 อ้างถูกท้าทายก่อน

นายซี หนึ่งในผู้ก่อเหตุ เล่าวว่า กลุ่มพวกตนขายน้ำกระท่อมอยู่หน้าตลาดข้างกับร้านสะดวกซื้อที่มีกลุ่มวัยรุ่นดักรอนายธีรพล  ที่หลบอยู่ในร้านสะดวกซื้อ  ซึ่งกลุ่มของพวกตนไม่ได้มีเรื่องอะไรกับนายธีรพล  แต่อย่างใดเพียงแค่กำลังเก็บของกลับบ้านเท่านั้น  แต่ระหว่างที่กำลังจะกลับนายการันต์และนายวรภพ คนเจ็บขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาพร้อมทั้งชูไม้ท้าทายพวกตนจึงได้มีปากเสียงขับรถไล่กันไปจนถึงอู่ที่เกิดเหตุและชกต่อยกัน  หนึ่งในกลุ่มของตนถูกนายการรันต์ใช้ไม้ตีจนล้ม  นายบี เห็นจึงได้เอามีดเข้าไปฟันแบบมั่วๆเพื่อช่วยเพื่อนออกมาไม่ให้โดนนายการันต์ตี จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บก่อนที่เจ้าของอู่จะออกมา
 

ด้านนายบี มือฟันบอกว่า ตนเองไม่ทราบว่าเรื่องอะไรกันเพียงแค่ออกมาตามน้องชายที่อยู่ในกลุ่มขายของเพราะเห็นว่ากลับบ้านช้าแต่เมื่อมาถึงร้านขายน้ำพบว่ากำลังขับรถไล่ตามกันไปตนจึงได้ขับจักรยานยนต์ตามมาถึงที่เกิดเหตุเป็นจังหวะที่ตนเห็นน้องถูกไม้ฟาดจนล้ม  ตนจึงได้เอามีดที่พกมาด้วยเข้าไปห้ามช่วยน้องออกมาเท่านั้น แต่หลังจากที่เกิดเหตุได้รับการติดต่อจากเพจบ้านเฮียชาญจึงได้ออกมาพบผู้เสียหายเพื่อพูดคุยรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น

โจ๋ 19 คึก ยกพวกบุกฟันหัวหนุ่มช่างซ่อมรถเจ็บ 2 อ้างถูกท้าทายก่อน

เบื้องต้นจากการพูดคุยปรับความเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ทราบว่า ทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิดที่ฝ่ายนายการรันต์ จะไปช่วยนายธีรพลออกมาจากร้านสะดวกซื้อ แต่กลับไปโวยวายผิดกลุ่มทำให้ถูกไล่ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว  ซึ่งทั้งหมดได้มีการนำผู้ปกครองมา  พูดคุยตกลงทำความเข้าใจพร้อมทั้งนำกระเช้าผลไม้มาขอโทษฝ่ายมารดาของนายการันต์ผู้บาดเจ็บ  เจ้าของอู่  ก่อนจะเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับผิดทางอาญาที่ก่อขึ้นตามกฎหมาย เนื่องจากทางนายการรันต์ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว  กลุ่มเยาวชนทั้งหมดเข้าใจพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย พร้อมทั้งฝากเตือนกลุ่มวัยรุ่นให้ใจเย็นเบาได้เบาหลังจากเสร็จจากคดีนี้แล้วก็จะเลิกใจร้อน 

 

ด้านทางคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้วเหลือแต่สอบสวนคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ส่วนจะผิดมากน้อยอย่างไรต้องรอทั้งสองฝ่ายเข้ามาพบเพื่อทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง


ภาพ/ข่าว - - เกียรติรัตน์  ชัยสกุลวงค์ สำนักข่าวเนชั่น จ.อุบลราชธานี

logoline