สำนักข่าวต่างประเทศเผยรายงานล่าสุด สมาชิกพรรคอนุรักษนิยม 11 คน ได้เข้าชิงตำแหน่งแทนที่ บอริส จอห์นสัน เพื่อเป็นผู้นำพรรค โดยรับปากว่าจะลดภาษี และทำงานด้วยความโปร่งใส หลังมีเรื่องอื้อฉาวของนายกฯ จอห์นสัน
จอห์นสัน ได้ประกาศลาออกเมื่อวันพฤหัส ที่ผ่านมา หลังรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่หลาย 10 คนลาออก ด้วยเรื่องอื้อฉาวที่เขาไม่สามารถจัดการได้ รวมถึงการฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์ที่บ้านพักประจำตำแหน่งนายกฯ
จอห์นสัน กล่าวว่า จะดำรงตำแหน่งรักษาการ จนกว่าพรรคจะเลือกผู้นำคนใหม่ได้ ด้านคณะกรรมการสภานิติบัญญัติพรรคอนุรักษนิยมที่เป็นผู้ออกกฎรัฐสภา จะกำหนดตารางเวลาที่แน่นอนสำหรับการเลือกผู้นำหลังการประชุมในวันนี้ (11 ก.ค.2565)
บ็อบ แบล็คแมน เจ้าหน้าที่คณะกรรมการบริหารพรรค ระบุว่า จะให้เสนอชื่อได้ถึงช่วงเย็นของวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) และจะคัดเลือกเหลือเพียง 2 คนในวันที่ 21 ก.ค.2565
จะมีการคัดเลือกผู้นำคนใหม่ โดยคาดว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีภายในกันยายน นี้ ซึ่งพวกเขาจะหาทางเลือกตั้งทันที
อีกทั้งประเด็นการเก็บภาษีได้กลายเป็นปัญหาหลักในการท้าชิงตำแหน่งครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้สหราชอาณาจักรเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อสูงขึ้น และค่าครองชีพเพิ่มขึ้น
ด้านเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม กล่าวเมื่อวันเสาร์ ว่า เขาจะไม่ยืนยันใดๆ หลังจากหารือกับเพื่อนและครอบครัว ขณะที่ ปรีติ ปาเตล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย แห่งสหราชอาณาจักรกำลังพิจารณาข้อเสนอ
สำหรับผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษทั้ง 11 คน มีรายชื่อ ดังต่อไปนี้
- ลิซ ทรูส รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ
ลิซ ทรูส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ประกาศลงสมัครเลือกตั้งกับหนังสือพิมพ์ฝ่ายขวาอย่างเดลี่เทเลกราฟเมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เธอกล่าวว่า เรามีวิสัยทัศน์ที่โปร่งใส และประสบการณ์การแก้ปัญหาต่างๆ ทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้ ซึ่งทรูสให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดภาษีตั้งแต่วันแรกที่ได้ตำแหน่ง
- ริชี ซูแนค อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง
ซูแนค เป็นรัฐมนตรีคนที่สอง ที่ลาออก เพื่อประท้วงการรับมือที่แย่ของจอห์นสันต่อข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดทางเพศของคริสโตเฟอร์ พินเชอร์ สภานิติบัญญัติพรรคอนุรักษนิยม หนังสือพิมพ์ไทม์ รายงานว่า ซูแนคได้หาเสียง 1 วันให้หลังจากจอห์นสันประกาศลาออก โดยได้รับการรับรองจากสมาชิกรัฐสภากว่า 30 คนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อดีตรัฐมนตรีคลังได้ถูกกดดันเรื่องการจ่ายภาษีของภรรยา ผู้เป็นทายาทบริษัทไอทีอินเดีย Infosys นอกจากนี้ เขายังถูกโจมตีเรื่องภาษีที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากงบประมาณของปีที่แล้ว ทำให้สหราชอาณาจักรต้องเผชิญภาระภาษีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1950 จากวิดีโอการหาเสียง ซูแนคสัญญาว่า จะเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบากนี้ ด้วย “ความซื่อสัตย์ ความมุ่งมั่น และความตั้งใจจริง”
- เจเรมี่ ฮันท์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ
ฮันท์ เป็นรองจอห์นสันในการท้าชิงตำแหน่งนายกฯอังกฤษต่อจาก เทเรซ่า เมย์ เขาได้เสนอความเป็นผู้นำที่จริงจัง และลดความขัดแย้งของหลังจากเรื่องวุ่นวายของนายกฯจอห์นสัน เขาพยายามสร้างความแตกต่างให้กับตัวเองในฐานะผู้ท้าชิงคนสำคัญที่ยังไม่ได้ทำงานกับรัฐบาลจอห์นสัน
- ซาจิด จาวิด อดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข
จาวิดเป็นรัฐมนตรีคนแรกที่ลาออกเพื่อประท้วงข้อกล่าวหาที่จอห์นสันทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของพินเชอร์ที่เขารู้มาก่อน บุตรชายของชาวมุสลิมปากีสถานที่อพยพมาอย่างจาวิดคือ ผู้สนับสนุนการค้าเสรี และเป็นอดีตนายธนาคาร เขากล่าวในทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ว่า “นายกฯ คนต่อไปต้องมีความซื่อสัตย์ มีประสบการณ์ และลดภาษีเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโต นั่นเป็นเหตุที่ผมมาอยู่จุดนี้”
- เพนนี มัรดันท์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม
มัรดันท์ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายตำแหน่ง รวมทั้งทำงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในสมัยรัฐบาลเมย์ อดีตกองหนุนกองทัพเรือ ประกาศเข้าชิงตำแหน่งนายกฯ ผ่านวิดีโอในโซเชียลมีเดียว่า “ผู้นำของพวกเราต้องเปลี่ยนแปลง ลดปัญหาผู้นำลง และใส่ใจกับประเทศมากขึ้น”
- แกรนท์ แชปส์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม
แชปส์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมในรัฐบาลจอห์นสันตั้งแต่ปี 2562 เขาเป็นผู้ถูกเลือกคนแรกในปี 2548
และยังเป็นผู้ภักดีต่อจอห์นสัน เขาได้เขียนลงทวิตเตอร์เพื่อหาเสียงว่า “ผมได้วางแผนไว้ ผมได้สื่อสารออกไป ผมหาเสียง ผมลงสมัคร และผมจะสามารถชนะการเลือกตั้งเพื่อพรรคในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้”
- นัดฮิม ซาฮาวี รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง
ซาฮาวี ถูกแต่งตั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังซูแนค ลาออก โดยก่อนหน้านี้เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ อดีตผู้ลี้ภัยจากอิรัก และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท YouGov ก่อนเข้าร่วมรัฐสภาในปี 2553 ซาฮาวี กล่าวว่า เขาจะบริหารจัดการลดภาษีเพื่อภาคเอกชน ครัวเรือน และธุรกิจต่างๆ
- ทอม ทูเกนทัท คณะกรรมาธิการรัฐสภากระทรวงการต่างประเทศ
ทูเกนทัท ดำรงตำแหน่งคณะกรรมาธิการรัฐสภากระทรวงการต่างประเทศ และอดีตทหารที่ต่อสู้ในอิรักและอัฟกานิสถาน เขาไม่เคยทำงานในคณะรัฐมนตรี และปกติเป็นฝ่ายวิจารณ์จอห์นสัน โดยเขาได้เขียนผ่านทวิตเตอร์หลังประกาศลงสมัครท้าชิงว่า “ขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาล และพรรคของพวกเรา เราต้องเริ่มต้นใหม่อย่างใสสะอาด”
- เคมี่ บาเดน็อช สมาชิกรัฐสภา
บาเดน็อช ได้รับเลือกเป็นสมาชิกรัฐสภาครั้งแรกเมื่อปี 2560 และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ เธอไม่เคยทำงานเป็นรัฐมนตรีมาก่อน และได้กล่าวในหนังสือพิมพ์ไทม์ว่า หากไม่มีพรรคอนุรักษนิยม สหราชอาณาจักรและโลกตะวันตกคงไร้จุดหมายต่อไป
- ซูเอลลา บราเวอร์แมน อัยการสูงสุด
ในฐานะอัยการสูงสุดแห่งอังกฤษ และเวลส์ บราเวอร์แมน ได้วิพากษ์วิจารณ์ทนายความหลังจากรัฐบาลพยายามละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับการค้าหลังทำข้อตกลง Brexit ในไอร์แลนด์เหนือ
ในฐานะผู้สนับสนุน Brexit เธอจึงลาออกเพื่อประท้วง จากสมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการข้อตกลง Brexit ภายใต้รัฐบาลเมย์ ซึ่งข้อตกลง Brexit ไม่ได้ไปไกลถึงขั้นที่จะทำลายความสัมพันธ์กับยุโรป ในการหาเสียงของเธอ จะจดจ่ออยู่กับเรื่องความสัมพันธ์ที่แตกหักกับสหภาพยุโรป รวมถึงศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป
- เรห์มาน ชิสติ สมาชิกรัฐสภา
เรห์มาน ชิสติ ผู้เป็นทูตการค้าแห่งสหราชอาณาจักร ได้ประกาศชิงตำแหน่งผู้นำผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ว่า
“นี่เกี่ยวกับความเป็นอนุรักษนิยม ความคิดใหม่ๆ ทีมหน้าใหม่เพื่อการเริ่มต้นใหม่ จะนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้า”