svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ชัชชาติ เชื่อ ทุกฝ่ายช่วยกันจะบรรเทาปัญหา ความไม่ปลอดภัยของนักเรียนได้

30 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชัชชาติ กำชับ เจ้าหน้าที่กทม.เร่งรายงานพื้นที่จุดเสี่ยง เพื่อแก้ไข หลังเกิดเหตุ นักเรียนบดินทรเดชา ถูกขู่เอาทรัพย์และถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมประสานตำรวจเข้าไปดูแลเพิ่ม เชื่อ หากทุกฝ่ายช่วยกันเป็นหูเป็นตาบรรเทาปัญหาได้

30 มิถุนายน 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณี  เด็กนักเรียนม.5 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ถูกขู่ขอ “พระเกี้ยว” เข็มกลัดสัญลักษณ์ ประจำโรงเรียน เมื่อวาน (29 มิ.ย) ที่ผ่านมา โดยมองว่า คงต้องดูแลภาพรวม ซึ่งในการดูแลของกทม. ได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ทำความสะอาด เทศกิจ รายงานจุดเสี่ยงเข้ามาเพื่อจะได้เข้าไปดูแลให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งเทศกิจคงต้องเน้นไปที่โรงเรียนของกทม.ก่อน เพราะไม่ได้มีกำลังพอจะไปดูแลทุกโรงเรียน คงต้องช่วยเหลือกันทุกระบบทั้งตำรวจและเทศกิจ

 

ชัชชาติ เชื่อ ทุกฝ่ายช่วยกันจะบรรเทาปัญหา ความไม่ปลอดภัยของนักเรียนได้

ทั้งนี้เมื่อวาน(29 มิ.ย.) กทม.ได้ประชุมกับพนักงานฝ่ายรักษาความสะอาดและได้ขอความร่วมมือ ให้ช่วยเป็นหูเป็นตา เพราะพนักงานเหล่านี้มีอยู่เกือบทุกถนนก็จะทำให้รู้ว่าจุดไหนเสี่ยง จุดไหนมีความมืด เพราะนอกจากดูแลความสะอาดแล้วให้สอดส่องเรื่องความปลอดภัยและรายงานมาที่ส่วนกลาง ในสิ่งที่ต้องให้ไปดำเนินการปรับปรุง

 

ทั้งนี้มองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดๆกันบริเวณรอบโรงเรียน สะท้อนถึงหลายเรื่องประกอบกัน โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยที่ประมาทไม่ได้ จากจุดที่มืดไม่สว่าง และเด็กอาจจะหนีปัญหารถติด เพื่อไปให้ถึงโรงเรียนเร็วขึ้น รวมถึงสภาพเศรษฐกิจอาจจะรุนแรงขึ้น ทำให้การก่อเหตุอาชญากรรมอาจจะสูงขึ้นด้วยหรือไม่ ซึ่งกทม.ก็จะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีในด้านของการดูแลจุดเสี่ยง แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดูแลความปลอดภัยโดยตรงก็ต้องแจ้งจุดที่เปราะบางเข้ามา

 

ชัชชาติ เชื่อ ทุกฝ่ายช่วยกันจะบรรเทาปัญหา ความไม่ปลอดภัยของนักเรียนได้

นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า หากโรงเรียนไหนมีจุดเสี่ยง ไฟดับ ต้นไม่บดบังสายตา หรือจุดที่มองไม่เห็น ก็ให้แจ้งเข้ามาได้ จะได้รีบไปแก้ไขปรับปรุง ทั้งนี้โรงเรียนอาจจะมีอาสาสมัครผู้ปกครองมาช่วยดูแลด้วย คงต้องช่วยกันในหลายมิติ กทม.ก็จะพยายามนำเจ้าหน้าที่ลงไปและดูแลความปลอดภัยให้มากที่สุด ซึ่งหากมีประเด็นร้องเรียนเข้ามา กทม.ก็พร้อมที่จะเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาและดูแลให้และจะนำข้อมูลจุดเสี่ยงที่เพิ่มเติมเข้ามา ประสานตำรวจมากขึ้นด้วย ในการวางกำลังต่างๆ จากเดิมที่ตำรวจมีข้อมูลและมีหน้าที่อยู่แล้ว

 

พร้อมย้ำว่า คงต้องช่วยกันดูแล เพราะกทม.คงไม่ได้มีกำลังไปดูแลทุกจุดตลอด 24 ชั่วโมง แต่หากประชาชนช่วยกันดูแลและกทม.ดูแลในส่วนที่รับผิดชอบด้วย ซึ่งเมื่อมีการขยายหน้าที่กันออกไป ก็เชื่อว่าจะช่วยบรรเทาสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นไปได้

logoline