วันที่ 28 มิถุนายน 2565 เวลา 12.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) น.ส.ปลา (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผู้กำกับการ ฝ่ายอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ( ผกก.ฝอ.5 บช.น.) เพื่อร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( ผบช.น.) ถูก ตำรวจจราจร ยศ “ส.ต.ท.” รายหนึ่ง ในสังกัด บช.น. ซึ่งเคยคบหากัน มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การพนันออนไลน์ รวมถึงนำทรัพย์สินเงินทองไปจำนำ มูลค่านับล้านบาท โดยอ้างว่าจะนำมาคืนให้ แต่หลังร้องเรียน หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการเพียง "กล่าวตักเตือน" โดยมี
ตนเปิดร้านค้า อยู่ในพื้นที่ของตำรวจจราจร และถูกตำรวจนายนี้ล็อคล้อ(รถยนต์)เป็นประจำ จึงมีความสนิทคุ้นเคยกัน และเริ่มคบหากัน เมื่อเดือนกันยายน 2563 ผ่านไปประมาณ 1 ปี ตำรวจนายนี้ เอยขอให้ช่วยปลดหนี้ พร้อมรับปากจะใช้คืนให้ ตนจึงตัดสินใจโอนให้ครั้งละไม่ต่ำกว่าพันบาท โดยระยะแรกๆ มีการโอนคืนบางส่วน ต่อมา มีการนำทรัพย์สินไปจำนำ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท แต่เงินที่ได้คืนมามี เพียง 7,800 บาท ซึ่งเป็นจำนวนแค่ "ค่าดอกเบี้ย" โรงรับจำนำเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินที่ถูกนำไปจำนำยังไม่มีการนำมาคืนเลย
"ตำรวจนายดังกล่าวอ้างว่า เดือดร้อน แต่พบว่า มีการเล่นการพนันออนไลน์ เสพยา และมีหนี้สินจากการกู้ ออนไลน์" น.ส.ปลา ระบุ
น.ส.ปลา อธิบายเพิ่มเติมว่า ฝ่ายชายเคยพาไปเจอ พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ที่อยู่ต่างจังหวัด จึงมีความเชื่อใจ จึงยอมให้ยืมเงิน โดยทรัพย์สินที่นำไปจำนำเป็นของแม่ อาทิ เครื่องเพชร เครื่องประดับ เขายังเคยอ้างว่า มีเจ้าหนี้โทรมาทวงเงินครั้งละ 30,000 บาทไม่อยากให้แม่ผิดหวัง หากชีวิตดีขึ้นจะนำเงินมาคืนให้ แต่หลังจาก ไม่ได้เงินคืนตามที่ตกลงไว้ จึงตัดสินใจไปร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชา ต้นสังกัด กลับได้รับคำตอบให้ไปคุยกันเอาเอง และไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด โดยให้เหตุผลว่าเป็นการว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว
เหยื่อสาวรายเดิม ระบุ หลังจากร้องเรียนมาหลายที่ ก็รู้สึกน้อยใจ คิดว่า จะพึ่งพาตำรวจได้ แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ ทำให้ต้องเดินทางมาที่ บชน. ส่วนการร้องเรียนพฤติกรรมเสพยาของตำรวจนายนี้ ทางต้นสังกัดแจ้งว่า ไม่มีหลักฐาน ซึ่งตนยืนยันว่า เคยเห็น ทั้งนี้อยากให้ ส.ต.ท.รายนี้ ออกมารับผิดชอบในสิ่งทำ เพราะ "ปัจจุบัน หนี้ของเขากลายเป็นหนี้ของเราหมดแล้ว"