24 มิถุนายน 2565 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการผ่อนคลายข้อปฏิบัติในการ สวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ทั่วราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนสามารถดําเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับสภาวะปกติยิ่งขึ้น จึงสมควรผ่อนคลายข้อจํากัด ในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ว่า ในส่วนของสถานศึกษายังให้ยึดแนวปฎิบัติของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ต่อไป
“ หากจัดการเรียนการสอนในสถานที่ปิด ยังจำเป็นจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่ แต่หากมีการจัดกิจรรมในที่โล่งแจ้งก็สามารถผ่อนปรนการสวมหน้ากากได้ ”
นางสาวตรีนุช กล่าวอีกว่า ตนยังมีความเป็นห่วงเด็กเล็ก เพราะเป็นกลุ่มเปราะบาง ยังไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ดังนั้นจึงยังควรต้องเข้มงวดเรื่องการใส่หน้ากากต่อไป
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการผ่อนคลายมาตรการสวมหน้ากากอนามัยเป็นไปโดยความสมัครใจ ราชกิจจาฯประกาศให้มีผลตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.เป็นต้นไป ว่า แล้วอย่างไรอ่านกันหรือยัง ว่าราชกิจจาฯเขียนไว้อย่างไร อยากให้ทำความเข้าใจกันก่อนแล้วค่อยมาถามว่า ออกมาเพื่อความมุ่งหมายอะไร และอะไรคือสาระสำคัญ แล้วค่อยมาถามต่อ แล้วมาตรการที่ว่ามีปัญหาอย่างไร ออกมาเพื่อใคร
“ ผมเชื่อว่า รอบคอบแล้ว ถึงได้ประกาศออกมา เพราะเป็นเรื่องของความเดือดร้อนและความจำเป็น อย่าให้มีปัญหาทุกเรื่อง ”
สำหรับ ราชกิจจานุเบกษา ฉบับดังกล่าว มีสาระสำคัญในการปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์และยกเลิกการกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว และขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรค โดยข้อ 3 ระบุว่า การผ่อนคลายข้อปฏิบัติในการสวม หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ทั่วราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับสภาวะปกติยิ่งขึ้น
จึงสมควรผ่อนคลายข้อจำกัด ในเรื่องการสวม หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า โดยยกเลิกความในข้อ 1 แห่งข้อกำหนดออกตาม ความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 24) ลงวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2564
การสวม หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า หรือ ถอดแมสก์ ให้เป็นการปฏิบัติโดยความสมัครใจ โดยขอให้ประชาชนพิจารณาประโยชน์ตามข้อมูลที่ฝ่ายสาธารณสุขรายงานว่า สวมหน้ากากอย่างถูกวิธี เป็นประโยชน์ด้านสุขอนามัยในการป้องกันการแพร่เชื้อและการรับเชื้อ ทั้งเชื้อโรคโควิด และโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ รวมทั้งยังสามารถลดความเสี่ยงอื่นที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ
พร้อมกันนี้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มีข้อแนะนำให้ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับ หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ไว้ดังนี้
สำหรับ ผู้เข้าข่ายเสี่ยงที่เมื่อติดเชื้อโควิด-19 จะมีอาการรุนแรง หรือความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต (กลุ่ม 608) หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่อต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น เพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อ
กรณีเป็น ผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากเชื้อโควิด-19 จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย อย่างถูกวิธีตลอดเวลา เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่โรค