svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

พ่อวอนลูกมอบตัวสู้คดีฆ่ายัดรถหรูที่ไต้หวัน

14 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พ่อผู้ต้องสงสัยฆาตรกรรม2 คนไทยยัดศพท้ายรถหรูที่ประเทศไต้หวันจะลงมือคนเดียว น่าจะมีคนบงการร่วมด้วย เผยลูกกลับมาบ้านจริง แต่ไม่มีอะไรผิดปกติก่อนหายตัวไป วอนลูกออกมามอบตัวให้ความจริงกับตำรวจ ระบุครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นผู้มีบุญคุณนับถือกันเป็นพี่น้อง

พ่อวอนลูกมอบตัวสู้คดีฆ่ายัดรถหรูที่ไต้หวัน    

        เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 14 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหนองบัวใหม่ อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของพ่อนายสันติ  (ขอสงวนนามสกุล) อายุ  35 ปี ชาวเชียงใหม่ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุฆาตกรรมนางสาวพจนีย์ หรือมี่ และนายประเสริฐ หรือมาส  สามี เสียชีวิต อยู่ท้ายรถ BMW ในลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน ประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ก่อนที่จะหนีออกนอกประเทศกลับมายังประเทศไทย และกลับมาบ้านที่เชียงใหม่ ก่อนหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 

             นายสุชาติ (ขอสงวนนามสกุล) พ่อของนายสันติ  ผู้ก่อเหตุ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ลูกชายกลับมาบ้านที่อำเภอไชยปราการจริง  ไม่มีอะไรผิดปกติ มานอนกับลูก 1 คืน และตอนเช้าไปส่งลูกไปโรงเรียนตามปกติ  รู้เพียงว่าลูกชายเดินทางมาถึงสุวรรณภูมิก่อนจากนั้นซื้อตั๋วมาเชียงใหม่ เข้าบ้านที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนมาที่อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ โดยขับรถยนต์ ยี่ห้อวอลโว่ของตนเองเดินทางจากอำเภอสันทรายมา มาถึงที่อำเภอไชปราการ มาถึง 3 ทุ่ม จากนั้นวันที่ 10 มิถุนายน 2565  ก็หายไปเลย ตอนที่เขามามีแค่กระเป๋ามาเสื้อผ้าไม่กี่ชุด ตอนหายไปไม่ได้เอาอะไรออกไปเลย ออกไปกี่โมงไม่รู้ ไม่ได้ร่ำลาอะไรเลย ตอนที่มาทางครอบครัวยังไม่ได้อ่านข่าว  

         

  พ่อวอนลูกมอบตัวสู้คดีฆ่ายัดรถหรูที่ไต้หวัน

          “อยากบอกให้ลูกมอบตัว ถ้าผิดหรือไม่ได้ผิดต้องออกมามอบตัว บอกความจริงให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางพ่อแม่จะได้สบายใจ ตามข่าวเราเห็นลูกคนเดียว ในความรู้สึกของพ่อคิดว่า มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะทำกัน และทำได้คนเดียว  อีกอย่างทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตมีบุญคุณกับเขา เราไม่เชื่อว่าเขาจะทำ เราเห็นข่าวแทบจะเข่าอ่อน ทางลูกๆ ของเขาก็ไม่รู้ข่าวนี้ เราไม่อยากให้รู้ ตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนเหมือนกัน ชีวิตของลูกจะอยู่ที่ไทย และไต้หวันเท่านั้น " นายสุชาติ กล่าว 

          ปกติครอบครัวจะมีเบอร์จีนติดต่อกัน ตอนนี้ในแชทกลุ่มก็ติดต่อกันไม่ได้ เขาไม่ได้พูดอะไร นิสัยใจคอเขาก็เหมือนพ่อ ไปถามชาวบ้านได้ ผมไม่ได้บอกว่าลูกดี แต่ไม่เข้าใจว่าลูกไปทำเหมือนที่ข่าวลงได้อย่างไร  สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ที่ผ่านมา ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน หรือเรื่องส่วนตัว ลูกไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง ตอนนี้เห็นข่าวทุกวัน อยากให้เขามาสู้กับความจริง ตอนนี้แม่เสียใจมาก ถ้าลูกทำจริงมีหลักฐานจริง แม่ผู้เสียชีวิตนับถือกันเป็นเหมือนพี่น้อง ลูกของเราทั้ง 2 ครอบครัวนับถือกัน ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตมีบุญคุณต่อกัน  

 

พ่อวอนลูกมอบตัวสู้คดีฆ่ายัดรถหรูที่ไต้หวัน

       “ถ้าวันหยุดของโรงงานที่ไต้หวัน ลูกก็ก็จะกลับบ้านไปหาแม่ของผู้เสียชีวิต เราคุยกันว่า ลูกของผมก็เหมือนลูกของเขา เขายกให้บ้านที่ไต้หวันให้อยู่เลย ตอนนี้พยายามติดต่อหาลูกก็ไม่ตอบเลย ส่วนใหญ่จะติดต่อผ่านทางวีแชท ผมไม่เชื่อว่าลูกทำคนเดียว อาจจะไปมีส่วนร่วม ยังติดใจว่า ทำไมกล้องวงจรปิดจับได้แต่ภาพลูกเรา อยากให้ทางลูกออกมาชี้แจง ความจริงจะได้ปรากฎ" นายสุชาติ กล่าว 

  รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบ้านนายสุชาติ เป็นบ้านที่ค่อนข้างมีฐานะ ซึ่งลักษณะบ้านเป็นบ้านชั้นเดียว แต่ มีหลายห้องนอน เพราะครอบครัวนี้มีลูกทั้งหมด 5 คน นายสันติเป็นบุตรคนที่ 3 และพ่อได้ประกอบอาชีพทำสวนส้ม ประมาณ 100 ไร่

 

พ่อวอนลูกมอบตัวสู้คดีฆ่ายัดรถหรูที่ไต้หวัน

             ล่าสุด ทางพลตำรวจตรี วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยความคืบหน้าว่า ในคดีนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้กองบังคับปราบปราม เป็นผู้ดำเนินการติดตามจับกุมตัวคนร้าย ตามที่ทางตำรวจไต้หวันได้ประสานมา ในส่วนที่ทางญาติของผู้เสียชีวิต มาให้ร้องทุกข์ให้ช่วยคุ้มครองและติดตามจับกุมคนร้าย ทางตำรวจภูธรภาค 5 ได้สอบปากคำเก็บข้อมูล ที่อาจเป็นประโยชน์ในการติดตามตัวคนร้ายเอาไว้แล้ว หลังจากนี้ต้องรอการประสานงานมาจากตำรวจกองบังคับปราบปราม แต่ในพื้นที่รับผิดชอบที่เป็นภูมิลำเนาของคนร้าย ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบแล้ว

ภาพ/ข่าว วสันต์ ปัญญาเรือน /จักรินทร์ นมนาน สำนักข่าวเนชั่น ศูนย์ข่าวภาคเหนือ 

logoline