สสจ เชียงใหม่ เตรียมพร้อม ปลดล็อกกัญชา

8 มิถุนายน 2565  นางนฤมล ขันตีกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า  หลังจากวันที่ 9 มิถุนายน พืชกัญชา กัญชง ไม่ใช่ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 อีก ต่อไป  แต่ส่วนที่ยังเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 คือสารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชงเท่านั้น ยกเว้นสารสกัดที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตในประเทศ และมี THC น้อยกว่า 0.2% และยังมีการห้ามนำเข้าพืชกัญชา กัญชง ยกเว้นเมล็ดพันธุ์ 
       

ดังนั้นประชาชนทั่วไป บริษัท หรือหน่วยงานราชการ สามารถปลูกกัญชา เพื่อใช้ดูแลสุขภาพหรือปลูกเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรมได้ แต่ต้องแจ้งข้อมูลการปลูกให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ผ่านระบบการจดแจ้งการปลูก สำหรับประชาชนที่สนใจ สามารถลงทะเบียนผ่าน แอปพลิเคชั่น  Plookganja  โดยใช้โทรศัพท์มือถือดาวน์โหลด ได้ทั้ง Google play และ App store หรือ จดแจ้งผ่าน web application เพื่อยืนยัน จำนวนต้นที่จะปลูก แหล่งที่มา รายละเอียดสถานที่ปลูก ขนาดพื้นที่ที่ปลูก และวัตถุประสงค์ในการปลูก หากไม่สามารถ ลงทะเบียนได้ ก็สามารถมายื่นขอให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ จดแจ้งแทนให้ได้ โดยเตรียมหลักฐานคือบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือ

ล่าสุดข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าปัจจุบัน จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตปลูกกัญชาแล้ว  302 พื้นที่ กระจายตามอำเภอต่างๆ

ด้านนายวัชรพงศ์ พุ่มชื่น  นักพัฒนางานวิชาการ ศูนย์วิชาการสารเสพติดภาคเหนือ เปิดเผยว่าสิ่งที่เป็นห่วงหลังจากนี้ คือ หากรัฐบาลเร่งปลดล็อคกัญชา แต่ไม่มีกฏหมายควบคุม จะเกิดผลกระทบกับ เยาวชน ที่อยู่ในวัยคึกคะนอง เพราะจะเข้าถึงกัญชาได้ง่ายขึ้น สิ่งสำคัญที่ต้องเร่งทำ คือ ออก กฏหมายควบคุม และ ให้ความรู้ กับผู้ปกครอง ผู้นำชุมชน ถือเป็นสิ่งสำคัญ  

นอกจากนี้ กลุ่มเด็ก เปราะบาง ที่มีอยู่ในสังคมจำนวนมาก ก็เป็นกลุ่มเสี่ยง ที่รัฐจะต้องดูแลเช่นกัน เนื่องจากประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว ระบุรายชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 มีเพียงสารสกัดที่มี THC มากกว่าร้อยละ 0.2 ส่วนพืชกัญชา ส่วนของกัญชา และสารสกัดที่มี THC ไม่เกินร้อยละ 0.2 ไม่เป็นยาเสพติด สามารถเสพ ใช้ได้โดยไม่ผิดกฎหมายยาเสพติด

ขณะที่ทาง แม่มดกัญชาสากล อย่าง ดร.แก้มหอม ณ ล้านช้าง   ได้ให้ความรู้ ในเรื่องของการเตรียม ปลดล็อกกัญชาในวันที่ 9 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดให้มีการอบรมให้ความรู้อย่างกว้างขวาง

ทั้งเรื่องของการลงทุนปลูก วิธีการปลูก การดูแลต้นกัญชาที่จะต้องศึกษาให้รอบคอบ โดยและสิ่งสำคัญที่สุดคือด้านการตลาด ที่จะส่งผลดีกับผู้ปลูหในอนาคต 

ข่าว/ภาพ : วสันต์ ปัญญาเรือน สำนักข่าวเนชั่น ศูนย์ข่าวภาคเหนือ