svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบแก๊งจีนไต้หวัน ใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการ หลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล

31 พฤษภาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รวบแก๊งจีนไต้หวัน ใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการ หลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล พบผู้เสียหายชาวจีนและจีนไต้หวันกว่า 500 ราย ระบุ ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ เปิด 3 เดือน มีคดีแล้ว 30,029 ราย

31 พฤษภาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วยพล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้ช่วยผบ.ตร. และหัวหน้าคณะทำงานสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผบช.สตม. พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงผลการจับกุมรวบแก๊งจีนไต้หวัน หลอกลงทุนคริปโตเคอเรนซี ใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการ ผู้เสียหายชาวจีน และจีนไต้หวันกว่า 500 ราย

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า คดีนี้ ชุดปฏิบัติการที่ 1 PCT ตรวจพบชาวจีนไต้หวันกลุ่มหนึ่งมีพฤติการณ์น่าสงสัย เนื่องจากเข้ามาด้วยวีซ่าทำงานในมูลนิธิการกุศล แต่กลับจะเดินทางไปเที่ยวเกาะสมุย จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า ในกลุ่มคนดังกล่าว มีบุคคลที่มีหมายจับจากต่างประเทศ จำนวน 2 คน ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนผ่านโทรศัพท์และระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต”

 

รวบแก๊งจีนไต้หวัน ใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการ หลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล

รวบแก๊งจีนไต้หวัน ใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการ หลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล

ชุดสืบสวนเฝ้าติดตามจนทราบว่า คนกลุ่มนี้พักอาศัยอยู่ตึกแถว ในเขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยจะเก็บตัวอยู่แต่ภายในตึกทั้งวันทั้งคืนไม่ออกไปไหนจนเป็นที่น่าสงสัย ต่อมา วันที่ 27 พฤษภาคม 2565 ได้นำหมายค้นศาลอาญาพระโขนง เข้าตรวจค้นพบตัวผู้กระทำความผิดจำนวน 6 ราย พร้อมของกลาง  ผู้ต้องหาเป็นบุคคลตามหมายจับจีนไต้หวัน จำนวน 2 ราย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 7 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 45 เครื่อง

 

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่น ในรูปแบบหลอกให้ร่วมลงทุนเหรียญสกุลเงินดิจิทัล และรับแลกเปลี่ยนเงินผิดกฎหมาย มีการแบ่งหน้าที่กันทำและใช้บัญชีธนาคารสัญชาติจีน เป็นเส้นทางการเงินในการกระทำความผิด จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1-4 ในความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ผู้ต้องหาที่ 5 กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และผู้ต้องหาที่ 6 ถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร โดยนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

"หลังจากผู้ต้องหาทั้งหมดคดีถึงที่สุดแล้ว สตม. จะทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และผลักดันออกนอกประเทศ รวมถึงจะบันทึกข้อมูลเป็นบุคคลต้องห้ามไม่สามารถเข้ามาในราชอาณาจักรได้อีกต่อไป"

 

รวบแก๊งจีนไต้หวัน ใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการ หลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล

พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ ผู้ช่วย ผบ.ตร.​ เปิดเผย สถิติคดีออนไลน์ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ ผบ.ตร. สั่งให้มีศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.- 29 พ.ค.65 พบว่า มีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 30,029 ราย โดยพบว่าคดีสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่

 

1.ซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้า 10,603 คดี แนะนำให้ เลือกซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือหรือรู้จักเท่านั้น

2.หลอกให้ทำงานออนไลน์ (เช่น ให้รีวิวสินค้า,กดไลก์ Tiktok, กดไลก์สินค้า) 3,666 คดี ซึ่งช่วงนี้มีการระบาดหนักมาก พร้อมเตือนว่า งานที่การันตีรายได้วันละ 500-1,000 บาท ส่วนมากไม่มีอยู่จริง อย่าเชื่อข้อความจากคนที่ไม่รู้จัก และขอแนะนำให้สมัครงานกับบริษัทที่จดทะเบียนเท่านั้น

3.หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 2,993 คดี โดยเราพบว่า ข้อความอนุมัติวงเงินกู้จากคนที่ไม่รู้จักส่วนมากจะเป็นมิจฉาชีพ

 

ขอฝากให้ประชาชน ติดตามจาก เพจ PCT Police เพื่อรู้ทันความคิดของคนร้าย ซึ่งคณะทำงานจะผลิตสื่อหรือคอนเท้นท์เตือนภัยในรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนรู้ทันและไม่ตกเป็นเหยื่อ

 

รวบแก๊งจีนไต้หวัน ใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการ หลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล

รวบแก๊งจีนไต้หวัน ใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการ หลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล

รวบแก๊งจีนไต้หวัน ใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการ หลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล

logoline