อีกความคืบหน้าจากทางด้าน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง โดยท่านได้กล่าวว่า
มีความเป็นไปได้ที่ประเทศไทย อาจจะพบโรคฝีดาษลิง หรือฝีดาษวานรได้ เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการด้านการเดินทาง ซึ่งทำให้หลายประเทศทยอยพบผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตามการจะติดต่อจากคนสู่คนต้องใกล้ชิดและคลุกคลีกันอย่างมาก ผ่านสารคัดหลั่ง จึงไม่น่ากังวล รวมถึงอัตราการเสียชีวิตที่ค่อนข้างต่ำ
สายพันธุ์ที่ระบาดในตอนนี้ มาจากแอฟริกาตะวันตก ซึ่งพบการเสียชีวิตต่ำมาก แค่ร้อยละ 1 มักเจอในกลุ่มเด็กหรือผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ หากเป็นสายพันธุ์แอฟริกากลางจะสูงเป็นร้อยละ 10 หรือฝีดาษคนสมัยเก่า อัตราเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 30
ส่วนความจำเป็นในการฉีดวัคซีน หรือปลูกฝี ต้องมีความรอบคอบ เพราะมีผลข้างเคียงสูงมาก จึงเคยถูกยกเลิกไป เพราะไม่มีความเสี่ยงเพียงพอที่จะรับผลข้างเคียง ดังนั้น ผู้ที่ต้องฉีดจึงควรเป็นกลุ่มเสี่ยงมากกว่า
ประเด็นการจะนำวัคซีนแช่แข็งที่เก็บไว้ 40 มาทดสอบ ถือเป็นเรื่องดี เพื่อเตรียมกับการระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งวัคซีนฝีดาษคนป้องกัยฝีดาษลิงได้ถึงร้อยละ 85
“การพบว่า การรายงานติดเชื้อในกลุ่มที่มีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกันนั้น ความเป็นจริงแล้ว ไม่ได้เกิดจากเพศสัมพันธ์ดดยตรง แต่มาจากการใกล้ชิดคลุกคลีกัน” รศ.ดร.เจษฎา กล่าว