svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ดราม่า! นักวิชาการ-กูรูของขลัง วิจารณ์ "คังคุไบ" ไม่ใช่นักต่อสู้สิทธิสตรี

21 พฤษภาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นักวิชาการ พร้อมกูรูของขลัง เห็นตรงกันกระแส "คังคุไบ" ฟีเวอร์ในไทย เริ่มไม่ถูกต้อง ระบุหญิงคนนี้ไม่ใช่ "นักต่อสู้สิทธิสตรี" แต่เป็น "แม่เล้า" หากินกับการค้ามนุษย์

กำลังเป็นกระแสอย่างมากในเวลานี้ เมื่อหลายคนออกมาแต่งตัวและทำท่าทางเลียนแบบ “คังคุไบ กฐิยาวาฑี” ตัวละครหลักจากหนังเรื่อง Gangubai Kathiawadi หรือชื่อไทยว่า “หญิงแกร่งแห่งมุมไบ” ซึ่งกำลังเข้าฉายใน Netflix

 

โดยตัวหนังจะเล่าเรื่องราวของ “คังคุไบ” นำแสดงโดย “อาเลีย บาตต์” (Alia Bhatt) นางเอกเบอร์ต้นๆ ของบอลลีวูด เล่นเป็นหญิงสาวที่ถูกแฟนหนุ่มหลอกมาขายตัวให้ซ่องโสเภณี ในเมืองมุมไบ เพื่อแลกกับเงิน 1,000 รูปี หรือไม่กี่ร้อยบาท ทำให้เธอต้องเป็นโสเภณีในเขตกามธิปุระ ตั้งแต่อายุ 16 ปี

 

กระทั่ง “คังคุไบ” ถูกลูกน้องมาเฟียใหญ่ของ “คาริม ลาลา” (Karim Lala) ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส เมื่อเธอไปพบมาเฟียคนดังกล่าว ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ก้าวขึ้นไปเป็น “ราชินีมาเฟีย” ซึ่งในหนังอ้างว่า เธอเป็นนักต่อสู้เรียกร้องสิทธิสตรีของโสเภณีในชุมชน จนกลายเป็นที่ถกเถียงในสังคมนักวิชาการนั้น

ดราม่า! นักวิชาการ-กูรูของขลัง วิจารณ์ "คังคุไบ" ไม่ใช่นักต่อสู้สิทธิสตรี

ล่าสุดนายปิติ ศรีแสงนาม จากศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “Piti Srisangnam” ว่า จากกระแส #คังคุไบ ด้วยความห่วงกังวล #GangubaiKathiawadi คือภาพยนตร์ที่จุดประกายให้หลายๆ คน เริ่มต้นดูภาพยนตร์อินเดีย หรือหนัง #Bollywood ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ พวกเราชาวไทยจะได้มีโอกาสเรียนรู้และเข้าใจชาวอินเดียให้มากขึ้น

ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้กับพวกเราชาวไทยอีกมากมาย เพราะเราจะเข้าใจมิติสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ รูปแบบชีวิตของคนอินเดียที่เป็นจริงมากขึ้น และลบภาพจำเดิมๆ ประเภท ยากจน สกปรก ตัวเหม็น ขี้โกงออกไปได้ และมองเห็นโอกาสค้าขาย ลงทุน เรียน ทำงาน ทำมาหากิน

 

แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเข้าใจด้วยว่า ปรัชญาสำคัญของการสร้างหนัง Bollywood คือ ภาพยนตร์คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะทำให้ชาวอินเดียได้หลีกลี้ออกไปจากโลกความเป็นจริงอันโหดร้าย เข้าสู่โลกแห่งภาพยนตร์ และนี่คือ หน้าที่ความรับผิดชอบทางสังคม (Social Responsibility) ของผู้กำกับ ในการที่จะต้องสร้างหนังให้สามารถเติมเต็มความสุขให้กับผู้ชมอย่างเต็มอิ่ม ทุกคนคาดหวังที่จะเดินออกจากโรงหนังด้วยความสุข และนั่นทำให้หนัง Bollywood เกือบทั้งหมดจบลงแบบ Happy Ending

ดราม่า! นักวิชาการ-กูรูของขลัง วิจารณ์ "คังคุไบ" ไม่ใช่นักต่อสู้สิทธิสตรี

หนังอินเดียจะไม่มีวันจบแบบ Avengers Infinity War ที่จบแบบหดหู่ ค้างเติ่ง คนหายไปครึ่งจักรวาล และคนดูห่อเหี่ยว ค้างคาใจ กลับไปบ้าน #คังคุบาอี ก็เช่นกันภาพยนตร์ ต้องทำให้เรื่องมีสีสัน มี drama หลายๆ ประเด็นถูก romanticized จบแบบปลดปล่อยอารมณ์ ข้อความที่ทำให้คิด และการผลิต production ที่สวยงามยิ่งใหญ่ รวมทั้ง Easter eggs ด้านสังคมวัฒนธรรมจำนวนมากที่ผู้กำกับ Sanjay Leela Bhansali สอดแทรกเอาไว้

 

เหล่านี้ อาจจะทำให้พวกเราลืมไปว่า คังคุไบ คือ แม่เล้า ทำมาหากินโดยการค้ามนุษย์ และควบคุมองค์กรอาชญากรรมใต้ดินของย่านหนึ่งในมหานครมุมไบ เธอไม่ใช่นักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี และไม่ได้เป็นวีรสตรีในชีวิตจริง แบบในหนัง

 

“ในอินเดียภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในปี 2021 แน่นอนว่าเป็นภาพยนตร์ที่กระแสตอบรับดี แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดเกิดกระแสฟีเวอร์ในอินเดีย เหมือนในประเทศไทย คนอินเดียดูหนังแล้วก็รู้จักเธอมากยิ่งขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ลบภาพออกไปได้ว่าเธอคือ โสเภณี”

สิ่งที่ผมห่วงกังวลมากที่สุดก็คือ ชั่วโมงนี้ในประเทศไทย ทั้งบุคคลธรรมดา บุคคลมีชื่อเสียง ต่างก็ออกมาใส่ส่าหรีสีขาว แตะ bindi สีแดงขนาดใหญ่กลางหน้าผาก และที่สำคัญคือออกมา post ท่าทางแบบเธอในการเชิญชวนลูกค้า ลงในสื่อ online มากมายเต็มไปหมด

ดราม่า! นักวิชาการ-กูรูของขลัง วิจารณ์ "คังคุไบ" ไม่ใช่นักต่อสู้สิทธิสตรี

ในอินเดียคนที่ใส่ส่าหรีขาว ที่มีนัยถึงความบริสุทธิ์มีอยู่ 3 กลุ่ม คือ นักการเมือง หญิงหม้ายที่รักษาพรหมจรรย์ และคนที่มีประวัติไม่ค่อยดี โดยนักการเมืองจะใช้ส่าหรีสีขาว ที่มีคลิบแถบสีประจำพรรคการเมือง ในขณะที่คนที่มีประวัติไม่ค่อยดี จะนิยมสีขาวบริสุทธิ์

 

“ขณะที่ท่าทางยกแขนชูหนึ่งข้าง อีกข้างกวักมือเชิญชวนลูกค้า และยืนแอ่น ยกขาเอียง point เท้า คือถ้าเชิญชวนเรียกลูกค้าของหญิงโสเภณีที่มีบรรยายในคัมภีร์ กามสูตรอายุกว่าพันปี

 

ดังนั้นหากกระแสยังเกิดต่อไป และกลับกลายเป็นว่าคนไทยที่ไปเที่ยวอินเดีย ซึ่งขณะนี้เขาเปิดประเทศให้ไปท่องเที่ยวได้แล้ว แล้วพวกเราก็ด้วยความสนุกและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็จัดหาชุดส่าหรีสีขาวบริสุทธิ์ ไปยืนถ่ายภาพตามสถานที่ต่างๆ อย่างสนุกสนาน ด้วยท่าทางดังกล่าว ลองนึกดูนะครับ ว่าคนอินเดียที่พบเห็นแล้วเขาไม่รู้หรอกว่า นี่คือกระแสฟีเวอร์จากภาพยนตร์ แต่พวกเขาเข้าใจสัญญะเหล่านี้ในแบบที่มันเป็นจริงคือการเชิญชวนให้ซื้อบริการ อะไรจะเกิดขึ้น

ดราม่า! นักวิชาการ-กูรูของขลัง วิจารณ์ "คังคุไบ" ไม่ใช่นักต่อสู้สิทธิสตรี

ต้องอย่าลืมนะครับว่า ในอดีตภาพจำของสตรีเอเชียหลายๆ ประเทศก็มีภาพจำจากคนต่างชาติเรื่องการค้าบริการอยู่แล้ว ผมไม่อยากให้ภาพเหล่านี้บนสื่อออนไลน์ หรือในสถานการณ์จริงๆ ในสถานที่ท่องเที่ยว ยิ่งทำให้เกิดการตอกย้ำซ้ำทวนภาพจำที่เลวค้่ยแบบนั้นลงไปอีก ดังนั้นเราต้องรู้เท่าทันในสื่อที่เราเสพให้มากกว่านี้ครับ อย่าผิวเผิน สนุกคะนอง จนเกิดภาพจำผิดๆ กับหญิงไทย

 

ขณะที่ “แจ๊ค-จิลล์” จักรพันธ์-จักรพงศ์ การสมพรต กูรูกุมารทอง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “Jack Jill Kumanthong” ระบุข้อความคล้ายกันว่า #คังคุไบ ฟีเวอร์ ควรระวัง! ในขณะที่ท่าทางยกแขนชูหนึ่งข้าง อีกข้างกวัก มือเชิญชวนลูกค้า และยืนแอ่น ยกขาเอียง point เท้า คือถ้าเชิญชวนเรียกลูกค้าของหญิงโสเภณีที่มีบรรยายในคัมภีร์ กามสูตรอายุกว่าพันปีครับ

ดราม่า! นักวิชาการ-กูรูของขลัง วิจารณ์ "คังคุไบ" ไม่ใช่นักต่อสู้สิทธิสตรี

ดังนั้น หากกระแสยังเกิดต่อไป และกลับกลายเป็นว่าคนไทยที่ไปเที่ยวอินเดีย ซึ่งขณะนี้เขาเปิด ประเทศให้ไปท่องเที่ยวได้แล้ว แล้วพวกเราก็ด้วยความสนุก และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ดันจัดหาชุด ส่าหรีสีขาวบริสุทธิ์ ไปยืนถ่ายภาพตามสถานที่ ต่างๆ อย่างสนุกสนาน ด้วยท่าทางดังกล่าว ลองนึกดูนะครับ ว่าคนอินเดียที่พบเห็น แล้วเขาไม่รู้หรอกว่า นี่คือกระแสฟีเวอร์จากภาพยนตร์ แต่พวกเขาเข้าใจลักษณะเหล่านี้ในแบบที่มันเป็นจริง คือการเชิญชวนให้ซื้อบริการ อะไรจะเกิดขึ้น…?

 

ต้องอย่าลืมนะครับว่า ในอดีตภาพจำของสตรีเอเชียหลายๆ ประเทศก็มีภาพจำจากคนต่างชาติ เช่น พัฒน์พงศ์ พัทยา บาร์เบียร์อาโกโก้ เป็นต้น

 

ในสถานที่ท่องเที่ยว ยิ่งทำให้เกิดการตอกย้ำซ้ำทวนภาพจำที่เลวร้ายแบบนั้นลงไปอีก ดังนั้นเราต้องรู้เท่าทันในสื่อที่เราเสพให้มากกว่านี้ครับ อย่าผิวเผิน สนุกคะนอง จนเกิดภาพจำ อาจเกิดการเข้าใจผิด แล้วเกิดเหตุการณ์ไม่ฝันขึ้นได้ครับ

ดราม่า! นักวิชาการ-กูรูของขลัง วิจารณ์ "คังคุไบ" ไม่ใช่นักต่อสู้สิทธิสตรี

เหล่านี้ อาจจะทำให้พวกเราลืมไปว่า คังคุไบ คือแม่เล้า ทำมาหากินโดยการค้ามนุษย์ และควบคุมองค์กรอาชญากรรมใต้ดินของย่านหนึ่งในมหานครมุมไบ อินเดีย

 

เธอไม่ใช่นักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี และไม่ได้เป็นวีรสตรีในชีวิตจริง แบบในหนัง เตือนสติกัน จะเป็นภาพจำชาวอินเดียจะมองคนไทยในบ้านเรา ยังไง?”

logoline