โดยเริ่มจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประเด็นการยกระดับระบบสาธารณสุข ว่า ช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เหมือนเช่นประเทศอื่นๆ โดยที่กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มีการตรวจพบการระบาด ผ่านมา 2 ปี เราดำเนินการเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาด เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย ดำเนินชีวิตได้ดีในสถานการณ์โควิด
ทั้งนี้ แนวทางของกระทรวงสาธารณสุข ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง วางทุกนโยบายที่ดีที่สุดต่อประชาชน เรามีประชุมEOC ที่กระทรวงสาธารณสุขทุกเช้า เพื่อรองรับสถานการณ์ทุกวัน อย่างที่เห็น เราสามารถคิดค้นยา เข้าถึงยาได้เร็ว มีความพร้อมในการเตรียมสถานพยาบาลไว้รองรับ ปรับเปลี่ยนวิถีการรักษาที่เหมาะสมกับระดับการติดเชื้อ แม้มีการระบาดหลายระลอก แต่เรามั่นใจว่าทุกครั้งเรามีความพร้อม รับมือได้เป็นอย่างดี
ขณะที่หัวข้อการยกระดับระบบการศึกษา นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือทำอย่างไรให้เด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษาให้ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด19 ทางกระทรวงศึกษาจึงนำแนวปฏิบัติ ปรับรูปแบบการเรียน ในลักษณะ 5 on ประกอบด้วย 1. Online 2. On Demand 3. On Air 4. On Hand และ 5. On Site
ต่อมาต้องวางแผนต่อถึงการจัดระบบการศึกษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์และพื้นที่ สิ่งสำคัญอย่างแรกคือ บุคลากร คุณครู จึงเป็นบุคลากรกลุ่มแรกๆ ที่เราผลักดันให้ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด19 จนขยายมาถึงกลุ่มนักเรียนทุกช่วงวัย จนสามารถกลับมาเปิดเรียนได้อีกครั้ง นอกจากนั้น ยังพบปัญหากลุ่มเด็กนอกระบบ ที่หลุดจากระบบสถานศึกษาก็พยายามนำเด็กเหล่านี้กลับมาเรียนใหม่อีกครั้ง
โดยร่วมกับสถานศึกษาอาชีวะ ที่ช่วยเรื่องการส่งเสริมอาชีพด้วย และหลังจากนี้ กระทรวงศึกษา ได้พัฒนาระบบแพลตฟอร์ม MOE ssfety centre ในการเปิดให้นักเรียน ผู้ปกครอง แจ้งเรื่องราวต่างๆ เข้ามาเพื่อให้หน่วยงานสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว สร้างให้สถานศึกษาเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก
ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงเรื่องการยกระดับคุณภาพชีวิตและสวัสดิการภาครัฐฯ ว่าตลอดที่ผ่านมา หากพูดถึงขอบข่ายของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะต้องพูดถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคนตั้งแต่เกิดจนตาย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาพบการระบาดของโควิด -19 พม.เป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาร่วมประสานกับทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อการควบคุมการแพร่ระบาด ลดการติดเชื้อ จะเห็นได้จากสัดส่วนการคิดเชื้อของไทยต่ำกว่าหลายๆ ประเทศ
นอกจากนั้น เรื่องของคุณภาพชีวิต กลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยวซึ่งพบร้อยละ20 ที่เป็นกลุ่มแม่อายุน้อย โดยในกลุ่มเหล่านี้เราต้องเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิต รายได้ อาชีพ ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่จะส่งให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของลูก
ส่วนนางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ กล่าวถึงหลักการยกระดับการทำงานส่วนราชการที่จะทำให้เข้าถึงประชาชน ว่า ในช่วงที่ผ่านมา รัฐฯมีการปรับเปลี่ยน ประยุกต์ นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด19 และอีกกลไกคือการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานรัฐ และร่วมกับประชาชน หรือร่วมกับภาคเอกชน ได้ดี จึงสามารถฝ่าวิกฤติต่างๆ มาได้
ดังนั้น ระบบการทำงานราขการที่ดีต่อจากนี้ต้องเปิดกว้าง และรวดเร็ว โดยปัจจุบันนี้มีการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วย แต่ก็ยังต้องคำนึงถึงความเท่าเทียมและการเข้าถึงสำหรับทุกที่ ทุกคน