ระทึก!! ชายคลุ้มคลั่งชิงรถแท็กซี่ ขับหนี ก่อนโดดเจ้าพระยา (มีคลิป)

เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์รถแท็กซี่ บนถนนพระราม 3 ปากซอย 60 แขวงช่องนนทรี พบ นายวิรัตน์ จันทร์ผือโป้ด อายุ 62 ปี เจ้าของรถแท็กซี่ส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเขียวเหลือง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยความตระหนก


นายวิรัตน์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนำรถออกไปรับส่งผู้โดยสาร และกำลังจะเข้าบ้านพักผ่อน เมื่อขับผ่านมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนปวดปัสสาวะจึงจอดเข้าข้างทาง โดยขณะนั้นลืมดับเครื่องเอาไว้ เมื่อตนปัสสาวะแล้วเสร็จกำลังเดินกลับไปที่รถ พบชายนิรนามอายุประมาณ 35-40 ปี ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว ไม่ใส่รองเท้า มีอาการคล้ายคนคลุ้มคลั่ง เหมือนคนเมายาเสพติด วิ่งมาที่รถตน ก่อนเปิดประตูขับรถออกไปต่อหน้าต่อตา

ต่อมาตำรวจแจ้งวิทยุสื่อสารขอกำลังเสริมเพื่อสกัดจับ อีก 10 นาทีต่อมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางคอแหลม ให้ข้อมูลว่า พบชายคนดังกล่าวไปจอดรถอยู่กลางสะพานพระราม 3 ฝั่งมุ่งหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ท่าพระ โดยชายดังกล่าวยืนอยู่บนขอบปูนกลางสะพาน และมีอาการลุกลี้ลุกลนเดินไปมาอยู่ระหว่างหลังคารถและขอบปูนกลางสะพาน เวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที การเจรจาไม่เป็นผล ชายคนดังกล่าวได้พยายามขอน้ำอัดลมตลอดเวลาและมีอาการเร่งเร้า โดยข่มขู่จะกระโดดลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่เป็นระยะๆ ทางอาสาสมัครกู้ภัย มูลนิธิร่วมกตัญญู ไปซื้อน้ำอัดลมมาให้ เมื่อชายคนดังกล่าวเดินมาหยิบดื่มได้เพียง 2 อึก ก็ตัดสินใจทิ้งตัวจากขอบปูนกลางสะพานลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในทันที ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของไทยมุงและพลเมืองดี ที่มาเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก

ในทันทีที่ร่างชายคนดังกล่าวกระแทกสู่ผิวน้ำ เรือตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางคอแหลม เข้าไปช่วยเหลือนำขึ้นบนเรือในทันที ก่อนที่จะพาชายคลุ้มคลั่งขึ้นฝั่ง นำตัวส่ง รพ.ตำรวจ ทำการตรวจร่างกาย และอายัดตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตำรวจ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบชื่อผู้ก่อเหตุรายนี้แล้วมีชื่อว่า นายปาน กรวิรัตน์ อายุ 39 ปี เบื้องต้นเจ้าตัวไม่ได้มีอาการบาดเจ็บใดๆ แต่ยังอยู่ในอาการคุ้มคลั่ง จึงอายัดตัวไว้ที่ รพ. ตำรวจ เพื่อรอดำเนินการแจ้งข้อหาตามความผิดหลายกระทง เบื้องต้นพบว่าก่อนลงมือชิงรถแท็กซี่ เจ้าตัวได้บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายเด็กรับรถของร้านอาหารแห่งหนึ่งริมถนนพระราม 3 ใกล้ซอย 60 แล้วถูกคนในร้านช่วยกันขับไล่ออกมา เบื้องต้นพบว่ารถแท็กซี่มีร่องรอยการเฉี่ยวชนรอบคัน กระจกหน้าแตก จึงประสานให้แพทย์ดำเนินการตรวจร่างกายหาสารเสพติดและอายัดตัวเอาไว้ ซึ่งหลังจากนี้หากมีผู้เสียหายรายใดได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขอให้เดินทางเข้ามาแจ้งความได้ที่ สน.บางโพงพาง