วันนี้ (10 พ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี เสวนาผ่านรายการ CareTalk x Clubhouse หัวข้อ “Thaksin Regime in The Multiverse of Poorness : ระบอบทักษิณในมัลติเวิร์สของความจน” พร้อมทั้งเปิดตัว MV เพลง “คนแดนไกล” ซิงเกิ้ลใหม่ของนายทักษิณผ่านเพจเฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย
โดยช่วงหนึ่งนายทักษิณยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า ตนได้ยิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า 30 ก.ย. หรือสิ้นปีงบประมาณนี้ คนไทยจะหายจน ซึ่งตนรู้สึกตกใจ เพราะว่าเรื่องดังกล่าวต่อให้ตนเป็นคนทำ ตอนนี้ถึงสิ้นเดือน ก.ย. ก็ทำไม่ได้
ทราบข่าวว่าบัตรคนจนที่แจก 20 ล้านใบ ถ้าจะหายจนต้องเปลี่ยนชื่อจากบัตรคนจนเป็นบัตรไม่จน แล้วก็อาจจะหายจนได้ สรุปแล้วมันเป็นไปไม่ได้กับสถานะปัจจุบัน ความเป็นจริงวันนี้ ผู้คนลำบากมาก คนอดอยากเป็นหนี้เป็นสิน เป็นหนี้นอกระบบด้วย บางคนไปเดินยา ขายยาเสพติด
ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปสัมผัสคนจริง ๆ จะรู้ว่า คนลำบากมาก ๆ ความล้มเหลวของการบริหารประเทศ และเจอกับภาวะสงครามของยูเครนและรัสเซีย ประเทศใหญ่ ๆ ยังเจ็บปวดเลย สินค้าราคาขึ้นเพราะระบบซัพพลายเชนมีปัญหาทุกที่ เฉลี่ยกำลังซื้อเราตกมาก ตนคิดว่า ถ้าเราไม่ทำอะไร ไม่บริหารจัดการ มัวแต่เล่นมันนี่แมททีเรียล แบบนี้ไปไม่ได้
นายทักษิณ ย้ำว่า ถ้าตนยังอยู่ ไม่ถูกปฏิวัติ หรือถ้าระบบประชาธิปไตยยังอยู่เป็นไปตามครรลอง คิดว่าบ้านเมืองไม่แย่ ดีกว่านี้เยอะ ตนขอย้ำอีกครั้งโดยเฉพาะคำพูดของ "บิล เกตส์" ที่พูดว่า ถ้าเราเกิดมาจน ไม่ใช่ความผิดของเรา แต่ถ้าเราตายจนเป็นความผิดของเรา แต่ถ้าเราไม่อยากตายจน แต่ต้องตายจนเป็นความผิดของรัฐบาล ที่โทษรัฐบาลเพราะมีหน้าที่สร้างโอกาสให้ประชาชน ถ้ารัฐบาลไร้ฝีมือประชาชนจะหมดโอกาส ไม่เห็นช่องทางการเจริญเติบโตก้าวหน้าในชีวิตเลย อันนั้นคือความผิดของรัฐบาล
ถ้าเรามีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชน เป็นรัฐบาลเผด็จการจากการยึดอำนาจ มีรัฐธรรมนูญที่ไม่เห็นหัวประชาชนมีไว้เพื่อรักษาอำนาจมากกว่าความมั่งคั่งของประเทศแบบนี้ไปไม่ได้
นายทักษิณ ยังเล่าให้ฟังถึงนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคว่า "เอาอย่างนี้นะ วันนั้นถ้าผมจำไม่ผิด ตอนผมตั้งคณะรัฐมนตรี ผมบอกกับอดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขว่า อยากให้เขามาเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข แต่เขาก็ต่อรองกับผมว่า อยากเป็นรัฐมนตรีศึกษาธิการมากกว่า เพราะใหญ่กว่า แต่ผมบอกเขาว่า เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขเถอะ เพราะ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นนโยบายสำคัญที่เราต้องทำให้ประชาชน นั่นเป็นสิ่งที่ “ผม หมอเลี๊ยบ หมอสงวน” ตั้งใจเอาไว้ เพราะตอนที่คุยกันที่พรรคไทยรักไทย เรา 3 คนก็มาคุยกัน แล้วมองว่า นโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดีและอยากให้เป็นจริงได้
ตอนนั้นเราคิดว่า มันจะเป็นการทำประกันสุขภาพให้ประชาชน เราเลยออกแบบระบบที่ดีเพื่อให้รักษาด้วยเงินที่น้อยลง และเราก็ดึงงบประมาณมาจัดสรรใหม่ตามจำนวนคนที่โรงพยาบาลรับผิดชอบ เรามากำหนดงบประมาณ ทำให้มันทำได้ ถ้าเงินไม่พอก็เติมงบเข้าไป ซึ่งในอนาคตเงินจะใช้น้อยลง เพราะเรากำหนดแนวทางส่งเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย เป็นระบบป้องกันที่ดี
วันนั้นเราก็มานั่งคิดว่า เราจะคิดเงินเท่าไหร่ดี หมอสุรพงษ์นี่แหล่ะที่เป็นคนเสนอให้จ่ายแค่ 30 บาทพอ ผมก็คิดว่า 30 บาทนี่ไม่แพงเกินไป และก็ไม่ถูกเกินไป เลยเคาะว่า เอาราคา 30 บาท และคนที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จอีกคน คือ คุณหมอมงคล ณ สงขลา ปลัดกระทรวงสาธาณสุข ที่ตอนนี้ล่วงลับไปแล้ว ท่านเป็นคนรับลูกไวมากและเป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญ"
นายทักษิณ ยังกล่าวถึงปัญหายาเสพในประเทศไทยขณะนี้ว่า ถ้าตอนนี้ผมยังอยู่ ยาเสพติดคงไม่ราคาถูกขนาดนี้ประเทศยิ่งจน ยาเสพติดยิ่งเยอะ วันนี้ยาเสพติดขายถูกมาก ต้นทุนต่ำเหลือเม็ดละ 20 บาท สมัยผมขายเม็ดละ 300 - 400 บาท เพราะรัฐบาลเราเอาจริงและเอาอยู่ แต่ตอนนี้กลับปล่อยให้ยาเสพติดเกลื่อนเมือง ถ้าวันนี้ประเทศเป็นประชาธิปไตย รับรองว่า นโยบายปราบปรามยาเสพติดจะเป็นนโยบายยืนพื้นเลย เพราะปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่