svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เช็กเลย กม.จราจรฯฉบับใหม่ คุมเข้มวินัยจราจร เพิ่มโทษ ประกาศลง"ราชกิจจาฯ"

09 พฤษภาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เช็กเลย "ราชกิจจาฯ" ประกาศ  พ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับใหม่ คุมเข้มวินัยจราจร ควบคุมการใช้ความเร็ว เลนซ้ายเลนขวา สกัดรวมตัวเด็กแว้น กำหนดให้มี"คาร์ซีท"สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ฝ่าฝืนเพิ่มโทษทั้งจำและปรับ มีผลบังคับใช้หลังจากประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว 120 วัน

 

8 พ.ค.65  ผู้สือข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค.65  "ราชกิจจาฯ" ได้มีการประกาศ  พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๕ โดยให้มีผลบังคับใช้หลังจากประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว 120 วันหรือ 4  เดือนนับจากนี้ 

 

เช็กเลย กม.จราจรฯฉบับใหม่ คุมเข้มวินัยจราจร เพิ่มโทษ ประกาศลง"ราชกิจจาฯ"

 

สำหรับสาระสำคัญ พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับนี้  มีความน่าสนใจในหลายมาตรา อาทิ 

 

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๕"

 

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

 

“มาตรา ๔๓  ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถ


(๑) ในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ

 

(๒) ในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น

 

(๓) ในลักษณะกีดขวางการจราจร

 

(๔) โดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน

 

(๕) ในลักษณะที่ผิดปกติวิสัยของการขับรถตามธรรมดา หรือไม่อาจแลเห็นทางด้านหน้า หรือด้านหลัง ด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้านได้พอแก่ความปลอดภัย หรือไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น

 

(๖) คร่อมหรือทับเส้นหรือแนวแบ่งช่องเดิน รถ เว้นแต่เมื่อเปลี่ยนช่องเดินรถเลี้ยวรถ หรือกลับรถ

 

(๗) บนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร เว้นแต่รถลากเข็นสำหรับทารก คนป่วยหรือคนพิการ

 

(๘) ในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น

 

(๙) ในขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ เว้นแต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น ทั้งนี้ ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด”

 

นอกจากนี้  มาตรา ๖ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๔๓ ทวิ/ ๑ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒

 

"มาตรา ๔๓ ทวิ/ ๑ ในกรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นและมีเหตุอันเชื่อได้ว่า ผู้ขับขี่หรือบุคคล ที่อาจเป็นผู้ขับขี่ ได้กระทำการฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ ทวิ วรรคหนึ่ง หากบุคคลดังกล่าวอยู่ในภาวะหมดสติ หรือได้รับอันตรายแก่กายจนไม่อาจให้ความยินยอมในการตรวจสอบการมีสารอยู่ในร่างกาย ตามมาตรา ๔๓ ทวิ วรรคสอง ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจขอให้แพทย์ที่เกี่ยวข้องทำการตรวจพิสูจน์ บุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนด การตรวจพิสูจน์ของแพทย์ตามวรรคหนึ่ง ให้ทำได้เท่าที่จำเป็นและสมควร โดยเก็บตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ หรือของเสียอย่างอื่นจากร่างกายของบุคคลดังกล่าวด้วยวิธีทางการแพทย์และใช้วิธีการ ที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ ทั้งจะต้องไม่เป็นอันตรายอย่างอื่นต่อร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลนั้น

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม>>>

นครบาลแจงหลัก “กม. คาร์ซีท” เล็งบังคับใช้ 5 ก.ย.นี้

 

ในมาตรา 7 ให้ยกเลิกความในมาตรา 123 แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน อาทิ คนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้าและที่นั่งแถวตอนอื่น ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์

 

คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ


คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด

 

จากข้อความดังกล่าว หมายความว่า เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี นั้นบังคับให้ต้องนั่งบน"คาร์ซีท" ทั้งนี้ พ.ร.บ. ฉบับแก้ไขกำหนดโทษปรับไว้สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท และมีผลบังคับใช้ในอีก 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

 

ขณะที่ มาตรา ๙ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๓๔ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๓๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

 

เช็กเลย กม.จราจรฯฉบับใหม่ คุมเข้มวินัยจราจร เพิ่มโทษ ประกาศลง"ราชกิจจาฯ"

ห้ามมิให้ผู้ใดแข่งรถในทางเว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากหัวหน้า เจ้าพนักงานจราจร ผู้ใดรวมกลุ่มหรือมั่วสุมกันในทางหรือสาธารณสถานใกล้ทาง พร้อมด้วยรถตั้งแต่ห้าคันขึ้นไป โดยมีการนัดหมายเพื่อแข่งรถในทาง หรือรถที่ใช้ในการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมกันมีการดัดแปลงหรือปรับแต่งรถ ให้มีสภาพไม่ถูกต้องตามมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๑๐ ทวิ หรือมีพฤติการณ์อย่างหนึ่ง อย่างใดอันแสดงให้เห็นว่าจะทำการแข่งรถในทาง ให้ถือว่า ผู้นั้นพยายามแข่งรถในทาง เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่า เป็นการกระท าเพื่อการอื่น หรือตนมิได้ร่วมหรือมีส่วนรู้เห็นว่าจะมีการแข่งรถในทางนั้น "

 

คลิกอ่านฉบับเต็ม >>>

 

พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๕

 

logoline