อธิบดีกรมสรรพสามิต ลวรณ แสงสนิท ระบุ จากมาตรการสิทธิประโยชน์จากภาษีสรรพสามิตอัตราภาษีตามมูลค่า 1% และเงินอุดหนุนจำนวน 18,000 บาทต่อคัน สำหรับการนำเข้าและผลิตรถจักรยานยนต์แบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ หรือ BEV ล่าสุดกรมสรรพสามิต ได้ลงนามในข้อตกลงกับ บริษัท เดโก กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจประกอบ ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ BEVตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นรายแรกที่เข้าร่วมมาตรการฯ โดยขอรับสิทธิจำนวน 8 รุ่น พร้อมวางแผนผลิตในปี 2565 จำนวน 32,000 คัน
ทั้งนี้ จากการที่รัฐบาลมีมาตรการขณะนี้มีผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้นำเข้ารถยนต์ จำนวน 4 ราย และรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 ราย ที่เข้าร่วม ลงนามกับกรมสรรพสามิตแล้ว โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจทยอยเข้าร่วมลงนามเพิ่มขึ้นอีกในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งจะส่งผลให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ BEV มีราคาลดลงและสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภค หันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น และช่วยส่งผลดีต่อการลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ
สำหรับเป้าหมายของยานยนต์ไฟฟ้าในปีนี้ ส่วนของรถยนต์จะอยู่ที่ 2 หมื่นคัน และรถจักรยานยนต์อีกจำนวนหนึ่ง วงเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีมาแล้ว 3 พันล้านบาท ในการใช้อุดหนุน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีความเหมาะสมและใกล้เคียงกับความเป็นจริงในปีนี้ ส่วนปีต่อไปเชื่อว่ากระแสอีวีจะได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้น คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและสภาพัฒน์ หาแหล่งเงินเพื่อมาใช้รองรับมาตรการในปีต่อไป ซึ่งการออกแบบมาตรการที่เหมาะสมจะทำให้อีวีเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของประเทศไทย