- 03 พ.ค. 2565
- 4.2k
ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งให้นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เป็นอธิบดีกรมสรรพากร และให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร สลับเก้าอี้ไปนั่งเป็นอธิบดีกรมสรรพสามิตแทน
ผู้สื่อข่าวรายงาน แหล่งข่าววงในจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการแต่งตั้งให้นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ไปเป็นอธิบดีกรมสรรพากร และให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร สลับเก้าอี้ไปนั่งเป็นอธิบดีกรมสรรพสามิต แทน
ความคืบหน้าล่าสุด ทางด้านน.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 18 /2565 มีมติอนุมัติในเรื่องแต่งตั้งข้าราชการประจำ ประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ดังนี้
1. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (สำนักนายกรัฐมนตรี)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เสนอรับโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 2 ราย เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตามกรอบอัตรากำลังที่ว่าง ดังนี้
-
- นายประเสริฐ ศิรินภาพร รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
- นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป โดยผู้มีอำนาจสั่งบรรจุทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมในการโอนแล้ว
โดยย้อนไปเมื่อ 1 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ครม.เคาะแต่งตั้ง “นายลวรณ แสงสนิท” นั่งอธิบดีกรมสรรพสามิตคนล่าสุด โดยคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ได้มีมติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ โดยแต่งตั้งให้ นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ให้ไปนั่งตำแหน่ง อธิบดีกรมสรรพสามิต คนล่าสุด
2. การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารออมสิน
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ให้คณะกรรมการธนาคารออมสินมีจำนวนเกิน 11 คนแต่ไม่เกิน 15 คน (นับรวมประธานกรรมการและกรรมการอื่นที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง และผู้อำนวยการธนาคารออมสินซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง) ตามมาตรา 6 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารออมสิน เพิ่มเติม จำนวน 4 คน ดังนี้
1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์อนามัย ดำเนตร
2. นายวิษณุ ตัณฑวิรุฬห์
3. นายรังสรรค์ ธรรมมณีวงศ์
4. นายทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป โดยผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการเพิ่มขึ้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งนายรุจิโรจน์ อนามบุตร เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการผังเมือง) ในคณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติ แทน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ การโยกย้ายดังกล่าวเป็นกระแสข่าวมาโดยตลอดโดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องการโยกย้ายให้นายลวรณ เพื่อให้เข้ามาเรียนรู้งานการจัดเก็บภาษีสรรพากร นัยว่าเป็นการแต่งตัวเพื่อเตรียมรับตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังต่อจากนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งจะเกษียณอายุราชการในอีก 1 ปี ข้างหน้า หรือ ในปี 2566
ทั้งนี้ นายลวรณ ถือว่า มีความอาวุโสที่สุดในบรรดาผู้บริหารระดับอธิบดีในกรมจัดเก็บภาษีหรือหน่วยงานอื่นๆในสังกัดกระทรวงการคลัง ซึ่งก่อนหน้าที่จะได้รับตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต นายลวรณดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รับผิดชอบงานเยียวยาประชาชนในช่วงโควิด-19 ทำให้ผลงานเป็นที่พอใจของนายกรัฐมนตรี
สำหรับ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ประธานกรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประธานกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กรรมการและกรรมการบริหารความเสี่ยง บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) นับเป็นคนรุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับ ว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถสูง มีความซื่อสัตย์สุจริต และเป็นความหวังของหน่วยราชการไทยว่าจะเป็นกำลังสำคัญที่จะผลักดันความเจริญรุดหน้าให้กับชาติบ้านเมืองได้อย่างจริงจังทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ดร.เอกนิติ เกิดในปี 2514 เป็นบุตรชายของดร.อิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน,ปลัดสำนักนายกฯ และปลัดกระทรวงพัฒนาสังคม
ดร.เอกนิติ สมรสแล้วกับนางร้อยแก้ว นิติทัณฑ์ประกาศ (สกุลเดิมอักษรานุเคราะห์)
ดร.เอกนิติ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยทุนของสมาคมธรรมศาสตร์ จบเศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิตจาก University of Illinois at Urbana-Champaign สหรัฐอเมริกา ด้วยทุนรัฐบาลไทย ก.พ. และจบเศรษฐศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตจาก Claremont Graduate University สหรัฐอเมริกา ด้วยทุนรัฐบาลไทย ก.พ.
หลังจบการศึกษาก็เข้ามารับราชการในกระทรวงการคลัง แล้วได้ดำรงตำแหน่งอัครราชทูตฝ่ายเศรษฐกิจการคลัง ประจำสหราชอาณาจักรและยุโรป เป็น Senior Advisor ของธนาคารโลก ณ กรุงวอชิงตันดีซี เป็นโฆษกกระทรวงการคลัง เป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์บริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ภัทรธนกิจ เป็นรองผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังกระทรวงการคลัง และเป็นผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และเป็นอธิบดีกรมสรรพรกรที่อายุน้อยที่สุดในปัจจุบัน
ตลอดระยะเวลาที่รับราชการในกระทรวงการคลัง ผลงานที่โดดเด่นของ ดร.เอกนิติ คือ เป็นผู้นำแนวคิด PPP Fast Track มาขับเคลื่อนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐซึ่งสามารถลดเวลาการอนุมัติโครงการเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐ จากปกติใช้เวลา 2 ปี ลงมาเหลือเพียง 9 เดือน และเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ Thailand Future Fund เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งช่วยลดภาระรัฐบาลในการกู้เงินและลดภาระหนี้สาธารณะ
ส่วนรายละเอียดคืบหน้า ทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ จะรายงานให้ทราบในลำดับต่อไป