svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เปิด “ดุลยพินิจศาล” ลงโทษคดีประมาททำคนตาย เจอคุกเท่าไร ?

26 เมษายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิด “ดุลยพินิจศาล” ลงโทษคดีประมาททำคนตาย เจอคุกเท่าไร ? หลังสังคมวิจารณ์หนักคดีส.ต.ต.นรวิชญ์ ซิ่งบิ๊กไบค์ชน หมอกระต่ายดับ

ภายหลังศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก ส.ต.ต.นรวิชญ์ จำเลยคดีซิ่งบิ๊กไบค์ชนหมอกระต่ายเสียชีวิต เป็นเวลา 1 ปี 15 วัน โดยไม่รอลงอาญา ปรับเงินอีก 4,000 บาท หลายคนบอกว่า โทษที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ได้รับน้อยไปหรือไม่

 

คดีนี้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ แม้จะถูกฟ้องถึง 9 ข้อหา แต่เป็นข้อหาที่มีโทษจำคุกเพียง 2 ข้อหา คือกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อาญา ม.291 มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท และข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ม.160 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับ 2,000- 10,000 บาท ส่วนข้อหาอื่นโทษมีเพียงโทษปรับ

 

เปิด “ดุลยพินิจศาล” ลงโทษคดีประมาททำคนตาย เจอคุกเท่าไร ?

แหล่งข่าวผู้พิพากษา อธิบายว่า จะเห็นว่าทั้ง 2 ข้อหา กฎหมายไม่ได้ระบุโทษจำคุกขั้นต่ำเอาไว้ เพียงแต่กำหนดอัตราโทษจำคุกสูงสุดไว้เท่านั้นว่าไม่เกินกี่ปีกี่เดือน เมื่อกฎหมายไม่ได้ระบุโทษขั้นต่ำ จึงเป็นดุลยพินิจของศาลที่จะพิจารณาลงโทษสถานใด โดยพิจารณาจากพฤติการณ์ของจำเลย ลักษณะการกระทำความผิด สภาพความร้ายแรงของผลที่เกิดจากการกระทำประมาทนั้น รวมไปถึงเหตุบรรเทาโทษ อาทิสารภาพหรือปฎิเสธ

 

คดีนี้จำเลยถูกฟ้องกระทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คือไม่ได้มีเจตนา (ไม่เช่นนั้นจะเป็นข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เดี๋ยวเรามีตัวอย่างให้ชม) แต่คดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสี่ ระบุว่า การกระทำประมาท ได้แก่กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ / ประกอบกับ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา มีเหตุให้ศาลบรรเทาโทษ

 

เปิด “ดุลยพินิจศาล” ลงโทษคดีประมาททำคนตาย เจอคุกเท่าไร ?

 

ข้อเท็จจริงในคดีนี้ก็คือพฤติการณ์ จำเลยขับขี่บิ๊กไบค์ด้วยความเร็วไปชนคนบนทางม้าลาย / ผลของความเสียหายที่เกิดขึ้น คือเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน ที่ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ในความผิดฐานนี้ สารภาพลดเหลือ 1 ปี ถือว่าเป็นไปตามบรรทัดฐานเท่ากับคดีอื่น แต่คดีนี้ศาลไม่รอลงอาญา เนื่องจากพฤติการณ์ของจำเลยที่ขับรถด้วยความเร็วในที่ชุมนม สถานที่ราชการ ใกล้ทางม้าลาย แล้วยังมีโทษปรับ และยึดรถจยย.บิ๊กไบค์ของกลาง

 

ผู้พิพากษาท่านนี้ยังได้ยังตัวอย่างคดีขับรถชนคนเสียชีวิตคดีหนึ่ง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน คดีนี้ศาลตัดสินลงโทษจำคุก 6 ปี จำเลยมีประวัติเสพยาเสพติด ศาลให้เพิ่มโทษจำคุกอีก 1 ปี รวมจำคุกทั้ง 7 ปี สารภาพลดให้ครึ่งเหลือจำคุก 3 ปี 6 เดือน

 

 

มีคดีกระทำประมาทอีกคดีหนึ่ง แต่ไม่เกี่ยวกับการขับรถ เป็นคดีวิศวะกรคุมงานก่อสร้างตึกแล้วเกิดถล่มลงมาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตนับสิบคน ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกเต็มแม็กสูงสุด 10 ปี ไม่รอลงอาญา คือโทษหนักหรือเบาศาลจะพิจารณาสภาพความร้ายแรงของผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำประมาท 

 

 

ลองไปย้อนดูคดีก่อนหน้านี้ ศาลก็ตัดสินในลักษณะเดียวกัน เช่น คดีดังเมื่อปี 2563 คดีนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เจ้าของธุรกิจผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ เมาแล้วขับรถ เบนซ์ พุ่งชนรถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์ เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รอง ผกก. (สอบสวน) กองปราบปราม และ ภรรยาเสียชีวิต ส่วน น้องแพร อายุ 12 ปี ลูกสาวบาดเจ็บสาหัส คดีนี้นายสมชาย ให้การรับสารภาพและชดใช้ค่าเสียหายให้ครอบครัวผู้ตาย 45 ล้านบาท

 

อัยการยื่นฟ้อง 3 ข้อหา คือ1.ขับรถด้วยความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด 2.ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย และ3.ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส

 

ศาลจังหวัดตลิ่งชันพิพากษาจำคุก 6 ปี ปรับ 200,000 บาท แต่จำเลยได้ให้การเป็นประโยชน์ สำนึกผิดและไม่เคยมีประวัติต้องโทษมาก่อน ศาลจึงให้โอกาสกลับตนเป็นคนดีของสังคม จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนบาท และโทษจำคุกรอลงอาญา 3 ปี

 

เปิด “ดุลยพินิจศาล” ลงโทษคดีประมาททำคนตาย เจอคุกเท่าไร ?

 

อีกคดีคือคดีที่ นายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ หรือ หมูแฮม อายุ 25 ปี ขณะนั้น บุตรชายนายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ กับ นางสาวิณี ปะการะนัง อดีตนางสาวไทยปี 2527 ขับรถชนคนตายบนทางเท้า และทำร้ายร่างกายผู้อื่นคือคนขับรถเมล์ คดีนี้หมูแฮม ไม่ได้ถูกฟ้องฐานกระทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ถูกฟ้องข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น

 

พฤติการณ์คือ นายกัณฑ์พิทักษ์ใช้ก้อนหินทุบใบหน้านายสถาพร อรุณศิริ พนักงานขับรถโดยสาร ปรับอากาศ (ปอ.) สาย 513 และขับรถเบนซ์พุ่งชนผู้โดยสารที่ยืนบนทางเท้า และนางสายชล หลวงแสง พนักงานการเงิน ขสมก. เสียชีวิต หลังเกิดเหตุรถเมล์ขับปาดหน้ารถของนายกัณฑ์พิทักษ์ ภายหลังพบว่านายกัณฑ์พิทักษ์มีอาการทางประสาท มีอาการชักเกร็ง และเคยเข้ารับการรักษาจากสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์

 

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกฐานเจตนาฆ่าผู้อื่นเป็นเวลา 10 ปี ฐานทำร้ายร่างกายอีก 1 เดือน แต่สุดท้ายศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำคุก ฐานฆ่าผู้อื่น ในขณะที่ไม่สามารถบังคับตนเองได้ เพราะมีจิตบกพร่อง เห็นควรให้จำคุกจำเลย 3 ปี และเมื่อจำเลยได้บรรเทาผลร้าย โดยชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ 3 ราย จนเป็นที่พอใจ จึงเห็นควรลดโทษให้เหลือจำคุกเวลา 2 ปี และเมื่อรวมโทษฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น อีก 1 เดือน รวมจำคุกทั้งสิ้นเป็นเวลา 2 ปี 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

 

logoline