22 เมษายน 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ครั้งที่ 7/2565 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ได้ประชุมเพื่อปรับมาตรการในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด
ที่ประชุม ศบค. ได้มีการพิจารณาการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมโรค โดยยกเลิกพื้นที่ควบคุม หรือ พื้นที่สีส้ม 20 จังหวัด ส่งผลให้จังหวัดพื้นที่เฝ้าระวังสูง หรือพื้นที่สีเหลืองจาก 47 เพิ่มเป็น 65 จังหวัด พร้อมกันนี้ได้เพิ่มพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือพื้นที่สีฟ้า อีก 2 แห่ง ยกเลิกตรวจ RT-PCR เข้าไทย เสี่ยงสูงกักตัว 5 วัน (+5วัน) ขยายเวลานั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านถึงเที่ยงคืน โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 1 พ.ค. 2565
สรุปปลดล็อคคุมโควิดแบบแพคเกจครั้งใหญ่ เปิดประเทศเต็มรูปแบบ 1 พ.ค. 2565 ดังต่อไปนี้
ศบค. ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยทั่วราชอาณาจักร โดยไม่มีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวัง สำหรับพื้นที่สถานการณ์โควิด19 มีดังนี้
พื้นที่เฝ้าระวังสูง 65 จังหวัด ประกอบด้วย
กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย ตรัง ตราด ตาก นครนายก นครปฐม นครพนม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นราธิวาส น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ยะลา ร้อยเอ็ด ระนอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระแก้ว สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุบลราชธานี
พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 12 จังหวัด ประกอบด้วย
ทั้งนี้ มาตรการควบคุมโควิด พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว และ พื้นที่เฝ้าระวังสูง มีดังนี้
1. คงมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิดแบบบูรณาการ ตามระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร 1 พ.ย. 64 ทั้งนี้ทุกพื้นที่ปิดสถานบริการสถานบันเทิงและสถานบริการอื่นในลักษณะคล้ายกัน
2. ปรับมาตรการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน
3. สถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้เปิดดำเนินการในรูปแบบร้านอาหารได้ตามมาตรการที่กำหนด โดยขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. ได้
4. Work from home ตามความเหมาะสมและการพิจารณาของหน่วยงาน
ศบค. ปรับมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร
1. กรณีฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์
2. กรณีไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือ ฉีดไม่ครบ
นอกจากนี้ ศบค. เห็นชอบ มาตรการเตรียมความพร้อม เปิดภาคเรียนที่ 1/2565 ของกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 ในเดือน พ.ค. นี้ โดยกำหนดนโยบายให้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบ On-site หรือ จัดการเรียนการสอนที่สถานศึกษาให้มากที่สุด และไม่นำเรื่องการฉีดวัคซีนมาเป็นเงื่อนไขในการมาเรียนของนักเรียน ขณะเดียวกันจะรณรงค์ให้นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล – ชั้น ปวส. เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้มากที่สุด
ส่วนการดูแลนักเรียน เบื้องต้นแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
สำหรับมาตรการความปลอดภัย 6-6-7 เพื่อลดความเสี่ยงโควิดในสถานศึกษา ที่สถานศึกษาต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย
ที่มา : ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.)