svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

จวกยับ ชายหญิงคู่หนึ่งใช้เท้ายันผนังสิมโบราณกว่าร้อยปี

16 เมษายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชาวเน็ตจวกยับ นักท่องเที่ยวชายหญิงคู่หนึ่งขึ้นไปถ่ายภาพบนสิมโบราณนับร้อยปี ซึ่งฝ่าฝืนข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้นไปอย่างเด็ดขาด และได้ใช้เท้ายันกับผนังสิม เจ้าอาวาสเตรียมเรียกประชุมคณะกรรมการวัดเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงหาแนวทางในการดำเนินการ

15 เมษายน 2565 มีกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชาว.ขอนแก่น โพสต์ภาพชายหญิงคู่หนึ่งได้ถ่ายรูปที่บริเวณสิม หรือโบสต์เก่าแก่ อายุกว่า 100 ปี ที่วัดไชยศรี บ้านสาวะถี ตำบลสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งภายในรูปดังกล่าวฝ่ายชายได้มีการแต่งตัวคล้ายคนโบราณพร้อมกับใช้เท้าข้างขวายันและพิงเข้ากับผนังของสิม ขณะที่ฝ่ายหญิงได้ใส่รองเท้าขึ้นมา โดยปกติแล้วสิมเก่าแก่งนี้จะไม่อนุญาตให้สวมรองเท้าขึ้นมา และไม่อนุญาตให้ผผู้หญิงขึ้นมาบริเวณด้านบน โดยระบุข้อความในโพสต์ว่า “เราไม่ใช่คนบ้านสาวะถี แต่รักที่นี่และเข้าไปโดยเคารพกติกาสังคม แต่ภาพที่ปรากฏจากที่เห็นคือสิ่งที่ชาวชุมชนไม่สามารถยอมรับได้ การเข้าไปเยือนโดยไม่เคารพสถานที่ ไม่เคารพกติกาสังคม ถือว่าไร้วัฒนธรรมที่สุดแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นชาวชุมชนสาวะถีเห็นภาพแล้ว และยากที่จะรับได้ การหาบทลงโทษให้กับคนที่ไร้หิริโอตัปปะ คงยากที่จะเอาผิด แต่ขณะนี้เขาได้ถูกสังคมพิพากษาจนเกินจะยืนอยู่ได้แล้ว”

จวกยับ ชายหญิงคู่หนึ่งใช้เท้ายันผนังสิมโบราณกว่าร้อยปี

จวกยับ ชายหญิงคู่หนึ่งใช้เท้ายันผนังสิมโบราณกว่าร้อยปี

 ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ที่วัดไชยศรี ก็ได้มีการจัดกิจกรรมทำบุญเสียเคราะห์ หรือ พิธีสะเดาะเคราะห์ ที่สืบทอดกันมานับร้อยๆ ปี ตามความเชื่อของชาวบ้านที่ว่า การเสียเคราะห์ จะทำให้เคราะห์ที่ไม่ดี หรือสิ่งที่ไม่เป็นมงคลในชีวิตสูญสลายไป และได้ร่วมกันทำนุบำรุงสิมวัดไชยศรี ซึ่งเป็นโบสถ์อีสานโบราณอายุมากกว่า 100 ปี เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของชุมชน

 

จวกยับ ชายหญิงคู่หนึ่งใช้เท้ายันผนังสิมโบราณกว่าร้อยปี จวกยับ ชายหญิงคู่หนึ่งใช้เท้ายันผนังสิมโบราณกว่าร้อยปี

 ล่าสุดภายหลังจากที่ภาพดังกล่าวได้มีการแชร์ออกไปแล้ว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง วัดไชยศรี บ้านสาวะถี ตำบลสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และได้พบกับพระครูบุญชยากร เจ้าอาวาสวัดไชยศรี เพื่อสอบถามเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ด้านเจ้าอาวาสก็ได้มีการเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางวัดพึ่งเห็นรูปดังกล่าว และจะได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการวัดเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากทางวัดไม่รู้ว่าเจตนาของคนที่แชร์รูปออกไปคืออะไร เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนมาขอถ่ายรูปลักษณะนี้เช่นกันแต่มีการขออณุญาติก่อน

         แต่ภาพดังกล่าวที่มีการแชร์ออกไป ยังไม่มีการขออณุญาติของทางวัดซึ่งเป็นการแอบเข้ามาภายในวัดและถ่ายรูปดังกล่าวโดยไม่ปฏิบัติตามกฎของทางวัด ซึ่งบริเวณขั้นบันใดทางขึ้นสิมก็มีการเขียนป้ายไว้ชัดเจนว่าห้ามผู้หญิงขึ้นมาบริเวณสิม ถ้าเกิดมีการขออณุญาตทางวัดก็จะได้มีการอำนวยความสะดวกรวมถึงชี้แจงกฎข้อห้ามต่างๆเพื่อที่จะทำให้สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และภาพที่มีการแชร์ไปนั้นคาดว่าจะไม่ใช่ช่วงสงกรานต์เพราะว่าถ้าเป็นช่วงสงกรานต์ทางวัดจะเปิดประตูสิมไว้ อาจะเป็นรูปถ่ายที่ผ่านมานานแล้ว อีกทั้งทางวัดจะยังไม่มีการชี้แจงอะไรเนื่องจากช่วงนี้ยังเป็นเทศกาลงานบุญ ไม่อยากให้มีเรื่องดราม่าเกิดขึ้น ภายหลังจากเทศกาลสงกรานต์ทางวัดก็จะได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการวัดอีกครั้งเพื่อหาแนวทางในการดำเนินการต่อ แต่อาจจะเป็นการเรียกคุยเพื่อถามจุดประสงค์ของการถ่ายภาพดังกล่าว และจะได้ชี้แจงกับทางเจ้าของภาพเพื่อให้ทำความเข้าใจกับประเพณีที่ชาวปฏิบัติสืบต่อกันมา

จวกยับ ชายหญิงคู่หนึ่งใช้เท้ายันผนังสิมโบราณกว่าร้อยปี

ภาพ/ข่าว : พรพรรณ  เพ็ชรแสน  สำนักข่าวเนชั่น ศูนย์ข่าวภาคอีสาน

logoline