12 เมษายน 2565 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ที่ไม่อยากให้ประชาชนการ์ดตก เพราะเชื้อโควิด19 มีการแพร่กระจายได้ง่าย และมีโอกาสกลายพันธุ์ หากมีการแพร่ระบาดจนมีจำนวนที่มากขึ้น
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำรวจการเฝ้าระวังพฤติกรรม เสี่ยงโรคโควิด19 ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักการศึกษา สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1-12 และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการสำรวจช่วงที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 พ.ย. 64 จำนวน 272,486 คน และดำเนินการสำรวจช่วงที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 5 – 31 มี.ค. 65 จำนวน 113,847 คน ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ทำการเปรียบเทียบการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล
ผลการสำรวจพบว่า 5 พฤติกรรมเสี่ยงโรคโควิด19 ของคนไทยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น คือ
1. ไม่สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทั้งอยู่ในและนอกบ้านที่มีคนมากกว่า 2 คน มีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่ม 4.8 %
2. ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว มีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่ม 2.6%
3. ใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า ที่สวมใส่อยู่ รวมทั้งใบหน้า ตา จมูก ปาก มีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่ม 1.5%
4. ไม่เว้นระยะห่างจากผู้อื่น อย่างน้อย 1 - 2 เมตร มีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่ม 1.1%
5. กินอาหารร่วมกันกับผู้อื่น หรือไม่ใช้ช้อนกลางส่วนตัว มีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่ม 0.6%
จากผลการสำรวจสะท้อนคนไทยการ์ดตก ขอให้ทุกคนให้ความสำคัญในการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งทั้งอยู่ในและนอกบ้านที่มีคนมากกว่า 2 คน และปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ
ทั้งนี้ กรมสนับสนุนสุขภาพ ขอย้ำให้ประชาชนเน้นมาตรการ "VUCA" ประกอบด้วย