svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“ชัชชาติ” ใช้นโยบายรักษ์เมือง นำรถพลังงานไฟฟ้าหาเสียง ลดฝุ่น-โลกร้อน

03 เมษายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“ชัชชาติ” ใช้รถพลังงานไฟฟ้าหาเสียง หวังหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. วางแนวทางแก้ปัญหาจุดเติมพลังงานไฟฟ้า ให้ประชาชนเข้าถึงและหันมาใช้มากขึ้น ระบุ ลดฝุ่น PM2.5 และลดโลกร้อน เผยกระแสตอบรับป้ายหาเสียงดี หวังอนาคตหันมาใช้ป้ายขนาดเล็กมากขึ้น

3 เมษายน 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 8 ปล่อยขบวนรถพลังงานไฟฟ้าหาเสียง ภายใต้แนวคิด หาเสียงไม่ทำร้ายเมือง ครั้งที่ 2 เพื่อวิ่งหาเสียงไปตามเส้นทางถนนจันทน์ - เจริญราษฎร์ - พระราม 3 - สาธุประดิษฐ์ โดยตลอดทางมีประชาชนให้การตอบรับ ถ่ายรูป โบกมือทักทายประชาชนตลอดเส้นทางที่รถวิ่ง

“ชัชชาติ” ใช้นโยบายรักษ์เมือง นำรถพลังงานไฟฟ้าหาเสียง ลดฝุ่น-โลกร้อน

นายชัชชาติ กล่าวว่า การหาเสียงแนวคิดรักษ์เมือง เพราะเชื่อว่า ถ้าเข้ามาทำงานให้กทม. ต้องเริ่มรักษ์เมืองก่อน ทั้งลดขนาดป้าย รีไซเคิลนำกลับมาใช้ใหม่ ใบปลิว รียูสป้ายไวนิล และรถหาเสียงที่พยายามจะใช้รถเล็ก เพื่อไม่ให้กระทบการจราจร ซึ่งรถหาเสียงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ 29 % ของภาวะเรือนกระจกมาจากการขนส่ง ดังนั้นถ้าปรับให้ใช้รถพลังงานไฟฟ้า หรือรถขนส่งสาธารณะจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจก และลด PM2.5ได้ด้วย แต่การลองนำรถพลังงานไฟฟ้า มาใช้ก็ไม่ง่าย

และจากการได้ใช้รถพลังงานไฟฟ้า หาเสียง ทำให้เข้าใจระบบนิเวศน์ของรถไฟฟ้ามากขึ้น และไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการหาจุดเติมพลังไฟฟ้า ซึ่งถ้าหากเข้าไปบริหารกทม.ได้ ก็จะเริ่มแก้ระบบตรงนี้ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้รถไฟฟ้าง่ายขึ้น และการใช้รถพลังงานไฟฟ้า มองว่าต้องมีการวางแผน และจะต้องร่วมมือกับเอกชนในการให้มีจุดเติมพลังงานไฟฟ้าให้มากขึ้น เพราะถ้าหากมีความสะดวกขึ้นแล้วจะทำให้ประชาชนหันมาใช้ได้รถไฟฟ้าง่ายขึ้น

 

“เชื่อว่าสามารถทำทันทีได้ หากเห็นถึงความสำคัญ และเชื่อว่าเอกชนมีความพร้อม ซึ่งขณะนี้ถือเป็นเทรนที่กำลังมา หากมาแล้วจะมาได้เร็วมาก เพราะจะมีผลทั้งเรื่องอากาศ ก๊าซเรือนกระจก และลดภาวะโลกร้อนได้” นายชัชชาติ กล่าวและว่า

“ชัชชาติ” ใช้นโยบายรักษ์เมือง นำรถพลังงานไฟฟ้าหาเสียง ลดฝุ่น-โลกร้อน

รวมถึงยังมีแนวคิดในการเปลี่ยนรถปกติ หรือรถเก่า ให้เป็นรถพลังงานไฟฟ้า โดยจะต้องจับมือกับเอกชน และใข้โรงเรียนฝึกอาชีพ พัฒนาทำให้เข้าถึงรถพลังงานไฟฟ้าได้มากขึ้น ซึ่งต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 3 แสนบาท แต่หากคำนวนจากค่าน้ำมันแล้ว เมื่อเทียบกับรถพลังงานไฟฟ้าจะคุ้มค่ามากกว่า เพราะราคาน้ำมันแพง

ส่วนเรื่องกระแสป้ายหาเสียงของตนเองที่ลดขนาดความกว้างเหลือแค่ 60 เซนติเมตร และมีปริมาณน้อย  รู้สึกดีใจในกระแสตอบรับ และในโลกที่เปลี่ยนไป หวังว่าอนาคตจะหันมาใช้ป้ายแบบนี้มากขึ้น เพราะน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกับเมือง

 

นายชัชชาติ กล่าวถึงการลงพื้นที่ชุมชนเพชรพระราม และชุมชนโรงปูน ท่ามกลางฝนตก เพื่อสำรวจชุมชน และพูดคุยกับผู้นำชุมชนถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นภายในชุมชนรวมถึงสำรวจความเป็นอยู่ และตรวจดูสภาพของคลองแสนแสบ ว่า การลงพื้นที่เมื่อเช้า ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ทำให้พบว่า ชุมชนที่อยู่ริมคลองแสนแสบ มีเด็กอยู่จำนวนมาก แต่เด็กๆว่ายน้ำไม่เป็น เพราะคลองไม่ได้ใสเหมือนเดิม ทำให้โอกาสเข้าถึงการว่ายน้ำยาก ซึ่งปัญหานี้ทำให้สอดคล้องกับนโยบายเล่นน้ำได้ของตนเอง ที่จะต้องมีศูนย์กีฬาที่ให้เด็กเข้าไปใช้บริการว่ายน้ำในราคาไม่แพง อยู่ไม่ไกลบ้าน  ทำศูนย์กีฬาที่มีคุณภาพกระจายทั่วพื้นที่กทม.

 

ส่วนการพัฒนาคลองแสนแสบ หลังจากรัฐบาลมีนโยบายอยู่แล้ว ในส่วนของกทม.ก็ต้องเข้าไปดู ว่า รับผิดชอบส่วนไหน แต่ปัญหาที่จะต้องแก้ไขคือ น้ำเสีย เรือ และอาจจะขยายการเดินเรือไปคลองลาดพร้าว ซึ่งจะเชื่อมโยงรถไฟฟ้าหลายสาย เพื่อให้มีโอกาสในการสัญจรเพิ่มขึ้น

“ชัชชาติ” ใช้นโยบายรักษ์เมือง นำรถพลังงานไฟฟ้าหาเสียง ลดฝุ่น-โลกร้อน

logoline