31 มีนาคม 2565 "การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม65" นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 8 ปัจจุบันอายุ 55 ปี เจ้าของสมญา "บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตผู้ช่วยอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นบุตรของ พลตำรวจเอก เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กับจิตต์จรุง สิทธิพันธุ์ (สกุลเดิม กุลละวณิชย์) มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดา สองคน
ชัชชาติ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สำเร็จปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโยธา (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโครงสร้าง จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ และวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ สหรัฐอเมริกา ด้วยทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2530
ชัชชาติ สมรสกับ ปิยดา อัศวฤทธิภูมิ พนักงานการบินไทย มีบุตรชายหนึ่งคน
ก่อนหน้านี้ ชัชชาติ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า มาช่วยกันทำกรุงเทพฯให้เป็นเมืองน่าอยู่ “สำหรับทุกคน” มันเป็นเรื่องง่ายที่เราจะทำกรุงเทพฯ ให้เป็น “เมืองน่าอยู่สำหรับบางคน” แต่สำหรับพวกเราอีกจำนวนมาก ที่ต้องเดินทางเป็นชั่วโมง เพื่อไปทำงานในแต่ละวัน วิ่งหาโรงเรียนดี ๆ ให้ลูก
เวลาเจ็บป่วยต้องไปรอหมอครึ่งค่อนวัน หรือ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ที่เดินทางลำบาก ไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือต่าง ๆ ได้ อย่าว่าแต่คำว่า “น่าอยู่” เลย แค่การใช้ชีวิตให้ผ่านไปในแต่ละวันในกรุงเทพฯ ก็เป็นเรื่องท้าทายแล้ว การทำกรุงเทพฯให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน จึงเป็นความตั้งใจ ความท้าทาย เป้าหมาย ที่เราจะต้องมุ่งมั่น ร่วมมือร่วมใจกัน ทำให้สำเร็จให้ได้
สำหรับ นโยบายในการสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นั้น ชัชชาติ มุ่งหน้า พัฒนา 9 ด้าน 9 ดี ดังนี้
“ เมืองจะน่าอยู่ได้ เราต้องมีองค์ประกอบดี 9 ด้าน เราต้องเดินหน้าพัฒนาเมืองทั้ง 9 ด้านไปพร้อมกัน ด้วยความโปร่งใส ไม่ส่วย ไม่เส้น ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และ เดินหน้าทันที ”
ชัชชาติ ระบุอีกว่า การทำกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่ ไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยคนๆเดียว ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจจากคนจำนวนมาก ในมิติการบริหารผู้ว่าฯ ต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้าน ประสานความร่วมมือจากหลายหน่วยงานในทุกภาคส่วน บริหารความขัดแย้งต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ว่าฯ กทม. ต้องรับใช้ประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ ชัชชาติ ยังระบุไว้ที่เว็บไซต์ www.chadchart.com ถึงเหตุผลในการลงสมัครเป็น ผู้ว่าฯกทม. ว่า
“ผมเป็นคนกรุงเทพฯ ตั้งแต่เกิด ได้เห็นปัญหาและเรียนรู้เมืองกรุงเทพฯ จากหลากหลายมุม ผ่านการใช้ชีวิตไม่ต่างจากพวกเราอีกนับล้าน ๆ คนในกรุงเทพฯ ใช้ขนส่งสาธารณะเป็นประจำ วิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะทุกเช้า เดินถนน กินข้าว ตามข้างทาง รับรู้ถึงปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้องต่าง ๆ ของคนใช้ชีวิตในเมืองหลวง ตั้งแต่ระดับผู้บริหาร พนักงานเงินเดือน นักธุรกิจ พ่อค้า แม่ค้า มอเตอร์ไซค์รับจ้าง นักเรียน นักศึกษา ประกอบกับความรู้และประสบการณ์ ที่เคยทำงานทั้งในฐานะวิศวกร อาจารย์ นักวิจัย งานการเมือง นักธุรกิจ ผู้บริหาร งานชุมชน ทำให้ผมมั่นใจว่าจะสามารถเสนอแนวทางที่จะทำให้กรุงเทพฯ ดีขึ้น ผมเชื่อว่าการทำให้กรุงเทพฯ ดีขึ้น ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยคนเพียงคนเดียว ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจของคนจำนวนมาก ผมมั่นใจว่าจะสามารถประสานงาน สร้างความไว้ใจ เสริมความร่วมมือร่วมใจของคนทุกกลุ่ม เพื่อให้เกิดความสามัคคี ร่วมกันทำกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน”
ขอบคุณข้อมูล : เว็บไซต์ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, วิกิพีเดีย, เฟซบุ๊กชัชชาติ สิทธิพันธุ์