ชวนคอข่าว ร่วมย้อนถึงอุบัติเหตุของ ปลาวาฬ-วรสิทธิ อิสสระ หรือหลายคนเรียกว่า "ไฮโซปลาวาฬ" โดยเมื่อช่วงเดือน มีนาคมปีที่แล้ว เพิ่งประสบเหตุขับรถชนเสาไฟฟ้าอาการสาหัส ก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดเผยในช่วงเวลาต่อมาว่า..ได้สูญเสียความทรงจำไป 2 เดือน!!
ขณะที่เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.2565) "ไฮโซปลาวาฬ" และเพื่อนอีก 3 คน ขับรถหรูยี่ห้อเบนท์ลีย์ (BENTLEY) มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ชนการ์ดเลนเสียหลักตกถนนก่อนเกิดไฟไหม้รถเก๋งวอดทั้งคัน ที่เกิดบนถนนเพชรเกษมสายเขาหลัก-อำเภอท้ายเหมือง บริเวณโค้งบ้านขนิม ม.7 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เคราะห์ดีที่ทุกคนสามารถออกจากรถได้ทัน ทั้งหมดจึงปลอดภัยจากอุบัติเหตุในครั้งนี้
หลังจากที่ ปลาวาฬ ได้พักรักษาตัวราวๆ 3 เดือน ในเวลาต่อมาเขาได้โพสต์ข้อความผ่าน IG ส่วนตัว เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยว่า หลังเกิดอุบัติเหตุรถชนและอยู่ในอาการโคม่านาน 4 เดือน ตนได้สูญเสียความทรงจำไปนาน 2 เดือน ทว่า ตอนนี้ทุกอย่างกลับมาเกือบจะเป็นปกติแล้ว ขอบคุณคุณทีมงาน เพื่อน ครอบครัว และหมอ ที่คอยดูแลรักษาตอนที่ผมป่วยหนัก
โดยอุบัติเหตุครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับ คุณปลาวาฬ เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ สร้างความปลื้มปีติแก่ครอบครัวและปลาวาฬเป็นอย่างมาก
ขอย้อนรอย 3 เหตุการณ์เฉียด ของ “วรสิทธิ อิสสระ” ไฮโซหนุ่มนักธุรกิจวัย 40 ปี ทายาทคนโตของ “สงกรานต์-ศรีวรา อิสสระ” เจ้าของอาณาจักรศรีพันวา ภูเก็ต เริ่มจากอดีตมาจนถึงเหตุการณ์ล่าสุด ดังนี้
เหตุการณ์ “เฉียด” ครั้งแรก
ย้อนเวลาไปเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2555 ไฮโซปลาวาฬ ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ จากเหตุ “ถูกแทง” ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ต
เหตุการณ์ในคืนนั้น เกิดขึ้นที่ รัชดา ผับ ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ข่าวระบุว่า ไฮโซปลาวาฬ ซึ่งขณะนั้นอายุ 31 ปี กำลังท่องเที่ยวราตรีกับบรรดาเพื่อนๆ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ 6-7 คน ซึ่งรวมถึงเจเรมี เรนเนอร์ ดาราดังฮอลลีวูด เพื่อนซี้ทอม ครูซ ที่ร่วมเล่นภาพยนตร์เรื่อง “มิชชันอิมพอสซิเบิล” ภาค 4 มาด้วยกัน หลังจากนั้นได้เกิดเหตุเขม่นกับกลุ่มวัยรุ่น และเด็กเสิร์ฟภายในผับ ทำให้เกิดการตะลุมบอน
ผู้ก่อเหตุครั้งนั้นเป็นพนักงานเสิร์ฟและพนักงานรักษาความปลอดภัยของรัชดาผับ 2 คน รับสารภาพว่าใช้มีดแทงและใช้ขวานฟันนายวรสิทธิ หรือ ไฮโซปลาวาฬ จนได้รับบาดเจ็บ บาดแผลใหญ่เกิดจากคมมีดที่แทงเข้าที่หน้าท้อง 1 แผลลึก นอกนั้นเป็นแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย โชคดีการฟันแทงไม่ถูกอวัยวะสำคัญภายในร่างกาย แพทย์รักษาจนไฮโซปลาวาฬปลอดภัย ส่วนเรื่องคดีตำรวจใช้เวลาสืบสวนสอบสวนไม่นาน เพียงข้ามคืนสามารถกดดันผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัว ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และส่งตัวดำเนินคดีตามลำดับ
เหตุการณ์"เฉียด"..ครั้งที่สอง
เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ย้อนไปช่วงค่ำวันที่ 14 มีนาคม 2564 ไฮโซปลาวาฬ ประสบอุบัติเหตุขณะขับรถเก๋งสปอร์ตหรูยี่ห้อซูบารุ เสียหลักชนเสาไฟส่องสว่างริมถนนหน้าโรงเรียนบ้านอ่าวน้ำบ่อ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนได้รับบาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในรถที่มีสภาพเสียหายยับเยินด้านประตูคนขับที่ยุบจนพับเข้าหากัน หลังคารถพังเสียหาย กระจกหน้าและกระจกด้านคนขับแตก ฝากระโปรงรถยุบงอ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างเร่งนำตัวไฮโซปลาวาฬที่ได้รับแรงกระแทกขาติดอยู่ในรถกว่า 30 นาที ส่ง รพ.วชิระภูเก็ต เข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน จนอาการปลอดภัย
ล่าสุดครั้งนี้เป็น “เฉียด” ครั้งที่สาม
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ของวันที่ 24 มีนาคม 2565 ไฮโซปลาวาฬ พร้อมเพื่อน ขับรถเบนท์ลีย์หรู สีดำ ทะเบียน 1 ขษ7426 กรุงเทพมหานคร มูลค่า 30 ล้านบาท กลับมาจากแหล่งท่องเที่ยวเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา กำลังเดินทางมุ่งหน้าไปหาดนาใต้ อ.ตะกั่วทุ่ง แต่เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางทำให้รถเสียหลักชนรั้วเหล็กกั้นโค้งบ้านขนิม ก่อนหมุนกลางถนนเพชรเกษม พื้นที่ ต. ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
สำหรับความคืบหน้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเรียก “ไฮโซปลาวาฬ” มาจ่ายค่าปรับ กรณีซึ่งเก๋งหรูชนขอบทางก่อนเจอไฟลุกไหม้วอดทั้งคัน ยืนยันจะไม่ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เพราะขณะเกิดเหตุไม่ได้กลิ่น เชื่อแขวงการทางฯ คงเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหาย
จากกรณีนายวรสิทธิ อิสสระ หรือ ไฮโซปลาวาฬ นักธุรกิจหนุ่ม ผู้บริหารโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต และเพื่อนอีก 1 คนที่นั่งมาด้วยกัน เกิดอุบัติเหตุขับรถเก๋งหรูเบนท์ลีย์ สีดำ เสียหลักชนการ์ดเลนและตกถนนจนพลิกหลายตลบ แล้วขับขึ้นมาบนถนนได้ จากนั้นเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นทั้งคันในช่วงเวลา 19.00 น. ของวานนี้ (24 มี.ค.) บนถนนเพชรเกษม สายเขาหลัก-อำเภอท้ายเหมือง บริเวณโค้งบ้านขนิม ม.7 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
ล่าสุด ร.ต.ท.ภูริวัจน์ ปลื้มใจ พนักงานสอบสวน สภ.ท้ายเหมือง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไฮโซปลาวาฬและเพื่อนอีก 1 คน หนีออกจากรถมาทัน ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ขณะพบว่าทรัพย์สินทางราชการเสียหายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งสันนิษฐานว่าสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้มาจากการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูง เนื่องจากพบรอยชนยาวประมาณ 30 เมตร และรอยเบรกของยางอีกประมาณ 10 เมตร
ส่วนการเกิดเพลิงไหม้นั้น คาดว่ามาจาก หญ้าแห้งที่ติดใต้ท้องรถจนทำให้เกิดไฟไหม้ในที่สุด ในเบื้องต้น ทางสภ.ท้ายเหมือง จะมีการเรียกให้มาจ่ายค่าปรับ ซึ่งอัตราโทษไม่เกิน 1,000 บาท และยืนยันว่าจะไม่มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แต่อย่างใด เพราะไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ อีกทั้งในเคสนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจึงอยู่ที่ดุลยพินิจของร้อยเวร ตาม ป.วิ อาญา นอกจากนี้ คาดว่าแขวงการทางฯ ก็คงจะมีการฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป