svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

หมอธีระ เตือนเลิกฝันถึง "โรคประจำถิ่น" โอมิครอนยังระบาดหนัก ผลกระทบรุนแรง

19 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หมอธีระ ย้ำโควิดยังห่างไกล "โรคประจำถิ่น" ย้ำต้องคงมาตรการเข้มในการป้องกัน ถอดหน้ากากยังไม่ได้ ยืนยันโอมิครอน ยังระบาดหนัก ส่งผลกระทบรุนแรง ชี้ติดโอมิครอนแล้วยังติดซ้ำได้อีก

19 มีนาคม 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก “ThiraWoratanarat” เผยข้อมูลการติดเชื้อโอมิครอน ยังคงระบาดหนัก เลิกคิดว่าจะเป็น "โรคประจำถิ่น" ได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ยุโรปเริ่มกลับมาติดเชื้ออีกระลอก มีเนื้อหาดังนี้..

 

 19 มีนาคม 2565 ทะลุ 467 ล้าน 

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,606,339 คน ตายเพิ่ม 4,901 คน รวมแล้วติดไปรวม 467,650,822 คน เสียชีวิตรวม 6,092,865 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีใต้ เยอรมัน ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และอิตาลี


เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก


จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 88.06 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 67.53


การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 35.62 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 30.56

 

หมอธีระ เตือนเลิกฝันถึง "โรคประจำถิ่น" โอมิครอนยังระบาดหนัก ผลกระทบรุนแรง

 

 สถานการณ์ระบาดของไทย 

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 19 ของโลก

 

 BA.2 ทำระบาดซ้ำในยุโรปถ้วนหน้า 

ผ่านพีคของ Omicron ไปไม่นาน ประเทศต่างๆ ในยุโรปก็ระบาดกลับซ้ำอย่างรวดเร็วจาก BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ไวกว่า BA.1 ซึ่งเป็นพันธุ์ดั้งเดิม

ล่าสุดประเทศออสเตรียประกาศกลับมาบังคับใส่หน้ากากในพื้นที่ปิด (indoor) อีกครั้ง คาดว่าจะเริ่ม 23 มีนาคมที่จะถึงนี้ เนื่องจากการระบาดรุนแรงมากขึ้น

 

สาเหตุหลักไม่ได้เกิดจากตัวไวรัสแต่เพียงอย่างเดียว แต่ที่สำคัญคือ การยุติมาตรการป้องกัน เปิดให้มีการใช้ชีวิตแบบปกติโดยมิได้ป้องกันตัว ทั้งๆ ที่จำนวนการติดเชื้อแต่ละวันของแต่ละประเทศยังมีสูงอยู่ ในขณะที่ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนก็มีแนวโน้มลดลงเมื่อเวลาผ่านไป 


สามปัจจัยคือ การไม่ป้องกันตัว ไวรัส และภูมิคุ้มกัน จึงเป็นเหตุผลอธิบายปรากฏการณ์ระบาดซ้ำอย่างไม่ต้องแปลกใจและเป็นบทเรียนสำหรับไทยเราเป็นอย่างดี ว่าไม่ควรเดินตาม

 

หมอธีระ เตือนเลิกฝันถึง "โรคประจำถิ่น" โอมิครอนยังระบาดหนัก ผลกระทบรุนแรง

 

หลายคนมองแบบฉาบฉวยว่า เค้าเสรีใช้ชีวิตแล้ว เราก็ต้องทำตามบ้าง เปรียบดั่ง "เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม" แต่สุภาษิตดังกล่าวนั้นโบราณชนคงมิได้หวังให้นำมาใช้กับภาวะวิกฤติระบาดรุนแรงทั่วโลกเช่นนี้ 


และคงเสียใจหากนำไปสู่การนำไปใช้ในทางที่ผิดในทำนอง "เห็นเขาเดินตกเหว มาเถิดมาเร็ว ตกเหวตามกัน"

 

สิ่งที่ไทยควรทำคือ เรียนรู้บทเรียนเค้า และหาทางที่ดีและปลอดภัยกว่าเค้า

 

บทเรียนของเค้าย้ำเตือนว่าการปะทุซ้ำรวดเร็วนั้น แม้จะฉีดวัคซีนกันมากกว่าไทย แต่พอการ์ดตกไม่ป้องกันดีพอ ก็เละเทะได้ ติดเยอะ ป่วยเยอะขึ้น และตายเพิ่มขึ้นได้

 

ยอดติดเรายังสูงมากติดอันดับต้นๆ ของโลก แถมอัตราการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นก็ยังน้อยมาก โดยชนิดวัคซีนพื้นฐาน (primary series) ก็ต่างจากเค้า ดังนั้นจึงมีความเสียเปรียบ ถ้าวิ่งโกยตาม เปิดเสรี ปักธงประจำถิ่นด้วยความห้าว โอกาสพลาดย่อมมีสูงกว่าเค้า

 

หมอธีระ เตือนเลิกฝันถึง "โรคประจำถิ่น" โอมิครอนยังระบาดหนัก ผลกระทบรุนแรง

 ข้อจำกัดของภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron 

ล่าสุดงานวิจัยจาก UCSF สหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์การแพทย์ระดับโลกอย่าง Cell เมื่อ 17 มีนาคม 2565 ชี้ให้เห็นว่า ระดับภูมิคุ้มกันในน้ำเลือด Neutralizing antibody ที่เกิดจากการติดเชื้อ Omicron นั้นน้อยกว่าการที่ได้จากฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นถึง 3 เท่า


ทั้งนี้หากเปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อต่างสายพันธุ์ พบว่า การติดเชื้อ Omicron จะมีระดับภูมิคุ้มกันน้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้าราว 10 เท่า


ด้วยข้อมูลต่างๆ ข้างต้น การติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron มาก่อน อาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อซ้ำ และอาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อที่เกิดจากสายพันธุ์อื่นในอนาคต


ดังนั้น New Normal ในอนาคตที่เราจะเห็นนั้น จึงไม่น่าจะใช่ฉากทัศน์ที่บางหน่วยงานคาดหวังในอีกไม่กี่เดือนว่าโควิดจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น โดยใช้ชีวิตแบบปกติในอดีตที่คุ้นชิน

 

หมอธีระ เตือนเลิกฝันถึง "โรคประจำถิ่น" โอมิครอนยังระบาดหนัก ผลกระทบรุนแรง


ควรยอมรับความจริงที่ยืนบนหลักฐานความรู้ที่ผ่านการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และนำมาออกแบบรูปแบบการใช้ชีวิตในสังคม ปรับแต่งระบบ โครงสร้าง กระบวนการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ให้สามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยกว่าในอดีต


ความปกติในอนาคตอันใกล้ ไม่ใช่ความปกติอันตรายในอดีตที่เราคุ้นชิน จนกว่าการระบาดทั่วโลกจะอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อ้างอิง : Servellita V et al. Neutralizing immunity in vaccine breakthrough infections from the SARS-CoV-2 Omicron and Delta variants. Cell. 17 March 2022.

 

หมอธีระ เตือนเลิกฝันถึง "โรคประจำถิ่น" โอมิครอนยังระบาดหนัก ผลกระทบรุนแรง

logoline