11 มีนาคม 2565 นางโอ๋ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี อาชีพค้าขาย ชาวอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูก นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายของแม่แตงโมยืมเงินไป ได้เดินทางมาพบกับผู้สื่อข่าวเพื่อให้ช่วยประสานงานกับทนายกฤษณะเพื่อติดตามเงินที่ทนายคนดังหลอกเอาเงินไป โดยระหว่างพูดคุยกับผู้สื่อข่าว นางโอ๋ ได้โทรศัพท์ไปหาทนายกฤษณะโดยตรง โดยทนายกฤษณะได้รับสาย และมีทีท่าจำเสียงของนางโอ๋ไม่ได้ ก่อนที่นางโอ๋จะถามว่า จำพี่โอ๋ได้มั้ย ที่เคยอยู่คอนโดที่อุดรธานี ทำให้ทนายกฤษณะนึกออก และจำนางโอ๋ได้ทันที โดยทั้งสองคนได้โทรศัพท์พูดคุยกันมีเนื้อหาดังนี้
พี่โอ๋ .. ทนายกฤษณะ จำพี่ได้มั้ยคะ
ทนายกฤษณะ .. เอ่อ คืออย่างนี้นะครับ ช่วงนี้ผมเบลอมากเลย แนะนำตัวเลยได้มั้ยครับ คือตอนนี้ผมโดนอัดหลายทางมากเลย
พี่โอ๋ .. ทนายกฤษณะจำพี่ได้มั้ย พี่โอ๋ที่อยู่คอนโดที่อุดรธานีนะคะ
ทนายกฤษณะ .. อ๋อ พี่โอ๋ครับ
พี่โอ๋ .. ว่าไงคะเงินของพี่ ที่เคยเขียนเช็คให้พี่ด้วย
ทนายกฤษณะ .. คือของพี่เลยยอดเท่าไรนะครับ คือผมเคลียร์ไปส่วนหนึ่ง ให้ทางสารวัตรเค้าไปนะครับ พี่ได้รับมั้ยครับพี่ ที่ผมโอนไป คือของพี่มัน 30,000 ใช่มั้ยครับพี่
พี่โอ๋ .. เช็คใช่มั้ยคะ
ทนายกฤษณะ .. ใช่ครับ ที่ผมชำระไปคือ 20,000 ที่ผมให้ทางร้อยเวรไปนะครับพี่
พี่โอ๋ .. เห็นพี่คุยกับร้อยเวรวันก่อน เห็นร้อยเวรบอกว่า 10,000
ทนายกฤษณะ .. อ้อ 10,000 นึงใช่มั้ยครับพี่ คือผมต้องกราบขอโทษพี่จริงๆ ตอนนั้นสถานการณ์ผมร่อแร่จริงๆ ผมเลยต้องมูฟก่อน แต่ตอนนี้ผมขอโอกาสพี่อีกสักครั้งนึง เพราะตอนนี้มันคดีใหญ่ และผมก็เสี่ยงอันตราย แต่ผมก็ยังทำต่อ งั้นผมขอเคลียร์พี่สิ้นเดือนนี้นะครับพี่
พี่โอ๋ .. สิ้นเดือนนี้นะคะ จ่ายหมดเลยนะคะ
ทนายกฤษณะ .. ใช่ครับพี่ พอดีผมมีค่าคดีเข้ามาอยู่ครับ เอ่อ ผมขอโทษครับพี่ ผมขอเป็นวันที่ 5 เพราะวันที่ 1 ผมยังไม่ได้เงิน แต่วันที่ 5 ผมได้เงินครับพี่ พี่ช่วยบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ผม แล้วมันจะขึ้นไลน์ แล้วพี่ส่งหมายเลขบัญชีมาให้ผมเลย ผมเคลียร์พี่คือ 20,000 วันที่ 5 เมษายนนะครับพี่ ผมกราบขอโทษพี่อีกครั้งนึงนะครับพี่ แล้วผมจะไม่ทำเหมือนเดิมอีกแล้วนะครับพี่ ตอนนี้ผมก็มาทำคดีใหญ่ด้วย ผมก็จะระมัดระวังมากขึ้น และก็ทำตรงนี้ให้จบนะครับพี่
นางโอ๋ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายกฤษณะครั้งแรกเมื่อช่วงปี 2560 ซึ่งขณะนั้นตนพักอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี และทนายกฤษณะทำงานอยู่ที่สำนักงานทนายความแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าคอนโอที่ตนพักอาศัยอยู่ โดยตนเคยเข้าไปติดต่อปรึกษาเรื่องคดีกับทนายกฤษณะ แต่ก็ยังไม่ได้ตกลงทำคดีกันแต่อย่างใด และในวันเดียวกันนั้นทนายกฤษณะก็ได้โทรศัพท์มาสอบถามตนว่า ตนอยากมีรายได้พิเศษมั้ย เป็นการเอาเงินไปช่วยประกันตัวผู้ต้องหา ซึ่งจะคืนเงินทั้งหมดให้พร้อมกับดอกเบี้ยภายใน 15 วัน ตนสนใจ จึงโอนเงินให้ทนายกฤษณะไปครั้งแรกจำนวน 50,000 บาท และในวันต่อมาทนายกฤษณะได้โทรศัพท์ติดต่อมาอีก และบอกว่าจะประกันตัวผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก ตนจึงโอนเงินให้อีกเป็นครั้งที่สอง จำนวน 50,000 บาท จากนั้นถัดมาอีก 1 วัน ทนายกฤษณะก็ได้โทรศัพท์มาขอเงินตนเพิ่มอีก แต่ตนบอกว่าไม่มีเงินแล้ว มีเงินเหลือเพียง 10,000 บาทเท่านั้น ซึ่งทนายกฤษณะก็บอกว่า งั้นเอามา 10,000 บาทก็ได้ ตนจึงโอนเงินให้ไปอีก 10,000 บาท รวมเป็นเงินที่โอนให้ทนายกฤษณะไปเป็นจำนวน 110,000 บาท
จากนั้นตนก็ไม่เคยได้เงินจากทนายกฤษณะคืน ติดต่อไปก็บ่ายเบี่ยง และไม่เคยพบหน้ากับทนายกฤษณะอีกเลย ตนจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งตำรวจได้ติดต่อทนายกฤษณะให้มาเจรจาค่าเสียหาย โดยทนายกฤษณะได้ตกลงคืนเงินให้กับตนเป็นจำนวน 30,000 บาท พร้อมกับมอบเช็คเงินจำนวน 30,000 บาทมาให้ แต่เมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินปรากฏว่าเช็คเด้ง ไม่สามารถขึ้นเงินได้ ล่าสุดตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามร้อยเวรเจ้าของคดีทราบว่า ทนายกฤษณะได้ฝากเงินให้ไว้จำนวน 10,000 บาท แต่ตนก็ยังไม่ได้ไปรับเงิน พอตนเห็นเป็นข่าวดังก็เลยรีบโทรศัพท์ไปทวงเงินกับทนายกฤษณะเพื่อหวังได้เงินคืนดังกล่าว
โดย - ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ