svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ยายแทบช็อกบังคับคดีปิดหมายยึดบ้าน-ที่ดินงงมีชื่อโผล่ติดหนี้แบงค์

09 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ยายวัย 66 ชาวบุรีรัมย์แทบช็อกเจอบังคับคดีปิดหมายประกาศยึดทรัพย์โฉนดที่ดินพร้อมบ้าน ทั้งมีชื่อตกเป็นจำเลย 1 ใน 5 ถูกธนาคารฟ้องไม่ชำระหนี้ ทั้งที่ไม่เคยกู้และไม่รู้จักจำเลยทั้ง 4 เชื่อ

9 มีนาคม 2565  นางสมัย  พิมเสน  อายุ 66 ปี  ชาว ต.หนองเยือง  อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์  พร้อมนายเกริกโกวิท  ชานันโท อายุ 45 ปี ลูกเขย ได้นำเอกสารหลักฐาน เข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่  สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์   หลังจากมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานบังคับคดีจ.บุรีรัมย์ นำหมายบังคับคดีเรื่องการยึดทรัพย์มาปิดที่ประตูรั้วหน้าบ้าน  เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วานนี้ (8 มี.ค.65)  โดยหมายบังคับคดีดังกล่าวระบุว่า  “เจ้าพนักงานบังคับคดี ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า  ศาลจังหวัดพิมาย ได้มีหมายบังคับคดีให้จัดการยึดทรัพย์ของจำเลยทั้ง 5 และบัดนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์ของนางสมัย พิมเสน จำเลยที่ 1 ไว้แล้ว คือ ที่ดินโฉนดเลขที่ 2902  เลขที่ดิน 22 หน้าสำรวจ 1526  ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง เลขที่ ไม่ปรากฎเลขทะเบียน  ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำให้เสียหาย จำหน่ายจ่ายโอน หรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ทรัพย์ที่ยึดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นอันขาด”   ทั้งนี้  จนท.ยังได้ยื่นหมายบังคับคดี คำพิพากษาศาลจังหวัดพิมาย ที่ระบุว่า นางสมัย  พิมเสน  ตกเป็นจำเลย 1 ใน 5 ที่ถูกธนาคารแห่งหนึ่งเป็นโจทย์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้สิน พร้อมดอกเบี้ยรวมกว่า 12,450 บาท แก่ทางธนาคาร

ยายแทบช็อกบังคับคดีปิดหมายยึดบ้าน-ที่ดินงงมีชื่อโผล่ติดหนี้แบงค์
 

โดยนางสมัย  ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นบุคคลตามที่มีหมายบังคับคดีมาปิดประกาศยึดทรัพย์ และไม่ได้เป็นบุคคลตามที่ธนาคารฟ้องจนถูกศาลพิพากษา ระบุว่าเป็นจำเลย 1  ใน 5 ที่ค้างชำระหนี้ธนาคาร   เพราะตนไม่เคยไปกู้เงินหรือทำธุรกรรมใดๆกับธนาคารดังกล่าวเลย  และไม่เคยรู้จักกับจำเลยอีก 4 คนตามที่ระบุในหมายด้วย เชื่อว่าน่าจะเกิดความผิดพลาด หรือเป็นการส่งหมายผิดคนและผิดบ้านมากกว่า   เพราะไม่เคยกู้เงินกับธนาคารนี้เลยจะเป็นหนี้ได้ยังไง  แต่ยอมรับว่าหลังมีหมายบังคับคดีปิดประกาศยึดทรัพย์ มาแปะที่หน้าบ้านก็เครียด กินไม่ได้นอนไม่หลับเลย   จึงอยากให้สำนักงานบังคับคดี และผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวด้วย  ซึ่งหากเกิดจากความผิดพลาดของ  จนท.จริง ก็ควรจะแสดงความรับผิดชอบ  เพราะทำให้ได้รับความเสียหายอับอาย และกระทบต่อสุขภาพจิตด้วย
ยายแทบช็อกบังคับคดีปิดหมายยึดบ้าน-ที่ดินงงมีชื่อโผล่ติดหนี้แบงค์

ด้านนายเกริกโกวิท  ชานันโท  ซึ่งเป็นลูกเขย  และในฐานะที่มีชื่อเป็นเจ้าบ้าน หลังที่ จนท.มาปิดหมายยัดทรัพย์  บอกว่า   ตอนที่ จนท.มาปิดหมายบังคับคดีหน้าบ้าน มีเพียงแม่ยายอยู่ที่บ้าน  แต่ จนท.ก็ไม่ได้สอบถามอะไรเพียงนำหมายมาปิดและยื่นเอกสารคำพิพากษาศาลให้เท่านั้น  ส่วนบ้านที่ จนท.นำหมายมาปิดก็มีชื่อของตนเองเป็นเจ้าบ้าน  ส่วนพ่อตาแม่ยายมีชื่ออยู่อีกหลัง  อย่างไรก็ตามเมื่อสอบถามแม่ยายก็ยืนยันว่าไม่เคยไปกู้เงินหรือทำธุรกรรมกับธนาคารไหนเลย  แต่ทำไมมีชื่อตกเป็นจำเลย 1 ใน 5 ที่ค้างชำระเงินธนาคาร  และหากแม่ยาย  เป็นจำเลยในคดีดังกล่าวจริง  ทำไมที่ผ่านมาไม่เคยมีคำฟ้องส่งมาหาจำเลย ไม่มีหมายวันนัดขึ้นศาลอะไรเลย  แต่จู่ๆ ก็นำหมายบังคับคดียึดทรัพย์มาปิดที่หน้าบ้าน จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นความผิดพลาดมากกว่า  ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นการปิดหมายผิดคนผิดบ้านเพราะชื่อนาม สกุล อาจจะตรงกัน  จึงอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย เพราะกรณีที่เกิดขึ้นทำให้เสียหาย อับอาย และกระทบสุขภาพจิตทั้งตัวแม่ยาย  และคนในครอบครัวด้วย 
  ยายแทบช็อกบังคับคดีปิดหมายยึดบ้าน-ที่ดินงงมีชื่อโผล่ติดหนี้แบงค์              
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามที่สำนักงานบังคับคดีเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ทาง ผอ.ยังไม่พร้อมให้ข้อมูล เพียงให้เจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าขอตรวจสอบรายละเอียดก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร  โดยจะมีการนัดทั้งสองฝ่ายที่สอบถามและพูดคุยกันก่อน 

โดย - สุรชัย พิรักษา
 

logoline