
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 พ.ต.อ.อัศวธรณ์ วงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.ท่าวังผา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.20น. วันที่ 7 มีนาคม 2565 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อป้องกันอาชญากรรมและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด บริเวณจุดตรวจจุดสกัดบนถนนสาย นาหนุน-สบขุ่น อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน พบรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา เลขทะเบียน บธ-6896 น่าน ขับเข้ามาบริเวณจุดตรวจ เพื่อมุ่งหน้าเข้าไปทาง อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ให้สัญญาณหยุด เพื่อขอทำการตรวจค้น ทราบชื่อผู้ขับขี่ นายธัชนนท์ ใจสิทธิ์ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 77 หมู่ 8 ต.ผาทอง อ.ท่าวังผา จ.น่าน เมื่อนายธัชนนท์ลงมาจากรถเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจำได้ว่า เป็นผู้ที่เคยมีประวัติเข้ารับการบำบัดยาเสพติด และเป็นผู้จำหน่ายรายย่อย ที่เคยถูกจับกุมคดียาเสพติดมาก่อนหน้านี้
เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถามนายธัชนนท์ว่าจะเดินไปไหน ซึ่งได้การวกวน จึงขอตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด ผลพบมีสารเสพติดในร่างกาย โดยนายธัชนนท์ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ได้เสพยาบ้ามา 3 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้น ในรถ ระหว่างตรวจค้นพบพิรุธ โดยนายธัชนนท์ ได้พยายามใช้มือล้วงของในกระเป๋ากางเกงออกมากำไว้ ทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าเป็นยาบ้า เนื่องมีกลิ่นฟุ้งกระจายออกมา "เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามแย่งออกมาจากมือนายธัชนนท์ และเกิดการขัดขืนต่อสู้ ขณะเดียวกันนายธัชนนท์ได้นำยาบ้า 1 กำมือ คาดว่าประมาณ 200 เม็ด กรอกเข้าปาก เพื่อกลืนลงท้อง เจ้าหน้าที่จึงพยายามไม่ให้นายธัชนนท์กลืนยาบ้าลงไป และพยายามให้นายธัชนนท์คายยาบ้าออกมา แต่ไม่เป็นผล จึงได้นำตัวนายธัชนนท์ส่งโรงพยาบาลท่าวังผา โดยระหว่างทางนำส่ง นายธัชนนท์ยังรู้สึกตัว และยังพูดคุยตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ได้"
เมื่อเดินทางถึงโรงพยาบลท่าวังผา ได้นำนายธัชนนท์เข้าห้องฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ได้เข้าช่วยเหลือทันที ทำการล้างท้องอย่างเร่งด่วน แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เนื่องจากยาบ้าที่กลืนลงไปมีจำนวนมาก ทำให้ร่างกายรับไม่ไหว เสียชีวิตภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลท่าวังผา เจ้าหน้าที่จึงนำร่างของนายธัชนนท์ ตรวจชันสูตรอย่างละเอียดที่นิติเวชโรงพยาบาลน่าน เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต
สำหรับคดียังคงต้องแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดชนิดร้ายแรง เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มียาเสพติดชนิคร้ายแรงประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า หลังจากที่ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดแล้ว จะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายจำหน่ายคดีต่อไป และให้ญาติรับศพกลับไปทำพิธีได้
ข่าว/ภาพ:นิศานาถ กังวาลวงศ์ ศูนย์ข่าวเนชั่นภาคเหนือ