
เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 8 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพบซากเด็กทารกถูกแช่แข็งในตู้แช่ ที่บ้านเลขที่ 7/2 ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ล่าสุด พล.ต.ต.ธวัชชัย พงศ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อเก็บวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ นำมาประกอบสำนวนในคดีนี้ ท่ามกลางการมุงดูของชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง
พล.ต.ต. ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้ส่งซากศพเด็กทารกไปตรวจที่นิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของเด็ก จากนั้นจะติดตามหาตัวพ่อแม่ ขณะนี้ทราบว่า อยู่ในเรือนจำเชียงใหม่ หลังถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ ส่วนการพบเด็ก พร้อมของเล่นนั้นไม่น่าใช่การทำไสยศาสตร์ แต่เชื่อว่าถ้าเด็กเสียชีวิตพ่อแม่จะนำของเล่นมาไว้ให้
ขณะที่เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวให้กับญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่ละแวกข้างเคียงเป็นอย่างมาก โดยนายธงชัย รักษ์รุ่งโรจน์ อายุ 66 ปี พี่เขยเจ้าของบ้าน เล่าว่า บ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านเช่า เป็นบ้านของนายวิรัตน์ ประภาพรรณ ที่ทำเป็นห้องๆ เพราะอยู่กันหลายครอบครัว หลังจากนั้นได้แยกย้ายกันไปตามทางของตนเอง เหลือเพียงแต่แม่ศรีน้อย เป็นมารดาของนายวิรัตน์ และนายเบญจรงค์มีศักดิ์เป็นหลานของแม่ศรีน้อย แต่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง จึงรับอุปการะ
ก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 ปีก่อนแม่ศรีน้อยย้ายไปอยู่กับนายอนันต์ที่เป็นสามี ที่บ้านสันนาลุง ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้อีกเลย จนนายวิรัตน์ เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ จึงจะทำการปรับปรุงเพื่ออยู่อาศัย จึงเห็นตู้แช่แล้วเปิดไม่ได้เพราะล็อคกุญแจ จึงได้ทำการงัดจึงพบศพเด็กทารก แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
สำหรับตู้แช่ดังกล่าวตนเองได้เห็นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2564 เพราะแม่ศรีน้อยบอกกับตนเองว่าไม่มีใครอยู่ แต่ค่าไฟสูงทุกเดือน จึงเข้ามาตรวจสอบจึงพบตู้เสียบปลั๊กไฟไว้ แต่ไม่ได้ตรวจว่าแช่อะไรไว้ เนื่องจากล็อคกุญแจเปิดไม่ได้ จึงทำเพียงแค่ถอดปลั๊กไฟ แล้วไม่ได้กลับมาดูอีกเลย
ความคืบหน้าล่าสุด ชุดสืบสวนของสภ.แม่ปิง ได้เดินทางไปที่บ้านนางศรีน้อย ซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้านให้ลูกชายระหว่างที่อยู่ต่างประเทศ กล่าวว่า ซากเด็กทารกที่พบในตู้แช่นั้น น่าจะเป็นลูกของนายเบญจรงค์กับภรรยา โดยตนจำได้ว่าเมื่อ 2 ปีก่อน นายเบญจรงค์ ซึ่งเป็นหลานชายที่ตนรับอุปการะดูแล และให้มาดูแลบ้านหลังเกิดเหตุ ได้อุ้มลูกมาในบ้านแล้วบอกว่าลูกตายในท้องของภรรยา ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และไปรับศพกลับมา เพราะยังทำใจไม่ได้ เนื่องจากเป็นลูกคนแรก ตนเองไม่เห็นด้วยที่เอาศพเด็กมาเก็บไว้ในบ้าน จึงบอกให้นายเบญจรงค์เอาไปจัดการ แต่นายเบญจรงค์ขอเวลา 1 เดือนทำใจ พร้อมกับซื้อตู้แช่มาแช่ศพเด็ก ตนจึงไม่ได้ว่าอะไรเพระอยู่คนละห้อง แต่ย้ำกับนาบเญจรงค์ตลอดว่าให้รีบนำไปทำพิธี
“ตนเข้าใจว่านายเบญจรงค์จัดการไปแล้ว ต่อมาตนได้ย้ายบ้านไปอยู่กับสามี นายเบญจรงค์มาหาที่บ้านใหม่บ่อยๆ เพราะมาขอเงินนายอนันต์ ตนถามตลอดว่าจัดการแล้วหรือยัง หลานยืนยันว่าจัดการแล้ว หลังจากนั้นหลานก็หายหน้าหายตาไป จนมีญาติมาบอกว่านายเบญจรงค์และภรรยาติดคุก คดีลักทรัพย์ จนกระทั่งวันนี้มีคนมาบอกว่าเจอซากทารกในตู้แช่ จึงคาดว่าน่าจะเป็นลูกของนายเบญจรงค์ ” นางศรีน้อย กล่าว
ข่าว / ภาพ โดย เกรียงไกร รัตนา ศูนย์ข่าวเนชั่นภาคเหนือ