
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2565 นายพีรพงษ์ ชูชื่น นายอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ไฟป่าที่ยังคงเกิดอย่างต่อเนื่องในพื้นที่อำเภอเมือง ทั้งที่ได้มีการประกาศของจังหวัดออกมาบังคับใช้เรื่องการห้ามเผาป่า แต่ก็ยังคงมีการฝ่าฝืน และลอบเผาป่า อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด คุณภาพอากาศ ยังวิกฤติต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 โดยค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน เช้าวันนี้วัดได้ 86 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
จากสถานการณ์ดังกล่าว ทางอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้ทำหนังสือคำสั่ง ไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยให้จัดกำลังออกตรวจสอบ หาข่าว สกัดกั้นการลอบเผาป่าในทุกหมู่บ้าน หากพบมีการลอบเผาป่าให้ดำเนินการจับกุมในทันที โดยหมู่บ้านใดสามารถชี้ช่องให้ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวคนเผาป่าได้ จะมี รางวัล ให้ รายละ 5,000 บาท
นอกจากนั้น ให้ทุกหมู่บ้าน ทำการซักซ้อม การปฏิบัติ ดับไฟป่า ถ้ามีเหตุ ไฟป่าลุกลาม เป็นวงกว้าง ชาวบ้านไม่สามารถ ดับได้ ให้รีบ แจ้ง ศูนย์ ตำบล และ อำเภอ ซึ่งทางอำเภอ จะจัดกำลังเข้าไป ช่วยเหลือดับไฟป่า ยกตัวอย่างเช่นเดียวกันกับ บ้านหัวน้ำแม่สะกึด ที่ทุกภาคส่วนได้แก่ ชาวบ้าน ป่าไม้ อส ทหาร จิตอาสา จนสามารถควบคุมไฟป่าได้
ทั้งนี้ ผลกระทบจากไฟป่า ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนทั่วไปจะมีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในแต่ละหมู่บ้าน ที่มีผู้ป่วยที่ติดโรคโควิด จำนวนมาก และผู้ป่วยเหล่านั้นได้รับผลกระทบจากควันไฟป่า และฝุ่นละออง ที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยตรงยิ่งส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น
รายงานข่าวจาก สำนักงานสิ่งแวดล้อมที่ 1 ภาคเหนือ รายงานผลการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน พบว่ามีค่าเกินมาตรฐานในพื้นที่ - ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย PM2.5 มีค่า 57 มคก./ลบ.ม., ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย PM2.5 มีค่า 59 มคก./ลบ.ม., ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ PM2.5มีค่า 58 มคก./ลบ.ม., ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน PM2.5 มีค่า 86 มคก./ลบ.ม.
ส่วน Hotspot เกิดขึ้นจำนวน 124 จุด แบ่งเป็น เชียงใหม่ 36 จุด เชียงราย 0 จุด ลำพูน 8 จุด และแม่ฮ่องสอน 80 จุด จากรายงานพบว่า จุดความร้อนพบมากที่สุดคือ จ.แม่ฮ่องสอน 80 จุด รองลงมาคือ เชียงใหม่ 36 จุด ลำพูน 8 จุด และค่ามลพิษสูงสุดคือ แม่ฮ่องสอน ค่า PM2.5 มีค่า 86 มคก./ลบ.ม.
ข่าว/ภาพ ทศพล บุญพัฒน์ สำนักข่าวเนชั่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน