เคลียร์ไม่จบยิงสนั่นแฟลตตำรวจสภ.ภูพิงค์

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 4 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุยิงกันที่อาคารที่พักข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ ด้านหลังโรงพัก ถนนห้วยแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ในที่เกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมแพทย์ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เร่งปฐมพยาบาลช่วยเหลือชีวิต นายสุรยุทธ์ สุทำทาน อายุ 21 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.เข้าที่บริเวณหน้าท้อง ได้รับบาดเจ็บ นอน หายใจรวยริน จากนั้นได้หามร่างผู้บาดเจ็บ ลงมาจากชั้น 3 มาขึ้นรถ แล้วนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่อย่างเร่งด่วน

           หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เมืองเชียงใหม่พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ได้เข้าสอบสวนยัง บริเวณห้องพักที่เกิดเหตุพบ สิบตำรวจโทกำชัย คิดสม อายุ 31 ปี ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่(ทำหน้าที่อยู่แผนกการเงิน) ของโรงพัก ยืนรอมอบตัวอยู่พร้อมด้วยอาวุธปืน ประจำกายขนาด 9 ม.ม.

         จากแนวทางการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายสุรยุทธ คนเจ็บที่ ถูกยิงเป็นลูกชายของ ร้อยตำรวจโท นายหนึ่ง ซึ่งมาพักอยู่กับบิดาที่ ห้องพักชั้นล่างของแฟลต และนายสุรยุทธได้ชอบมีปากเสียง กระทบกระทั่งกับสิบตำรวจโทกำชัยฯมาหลายครั้ง จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ นายสุรยุทธได้ ขโมยอาวุธปืนพกสั้นประจำกายของบิดา แล้วเดินขึ้นไป เอะอะ โวยวายและเคาะห้องพักของสิบตำรวจโทกำชัยจึงถูก สิบตำรวจโทกำชัยใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำกายยิงสวนออกมา 1 นัด 

            โดยทางสิบตำรวจโทกำชัย   อ้างว่า ยิงป้องกันตัวเพราะเกรงว่าผู้บาดเจ็บจะพังประตูห้องพักเข้ามาทำร้าย หลังจากยิงไปแล้ว 1 นัด พบว่า ผู้ก่อเหตุ ถูกยิงเข้าหน้าท้อง จนได้รับบาดเจ็บนอนจมกองเลือดอยู่ หลังจากสิ้นเสียงปืนทางเพื่อนข้าราชการตำรวจและครอบครัวได้ เข้ามาห้ามปรามและ รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ช่วยเหลือคนเจ็บ มาส่งยังโรงพยาบาล

              เพื่อนข้าราชการตำรวจได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับทีมแพทย์ฉุกเฉิน ว่าทั้งคู่ได้ทะเลาะกันและมีปากเสียงกันด้านล่างแฟลต จากนั้นได้แยกย้ายกัน ส.ต.ท.กำชัยก็เข้าห้องพักไป จากนั้นนายสุรยุทธ์ได้ถือปืนของพ่อ ซึ่งเป็นตำรวจมายืนเอะอะโวยวายอยู่ห้องห้องพักของส.ต.ท.กำชัยฯ ทาง ส.ต.ท.กำชัยจึงได้ยิงปืนสวนออกมา 1 นัดเพื่อป้องกันตัว

          อย่างไรก็ตาม    ทางพนักงานสอบสวนได้มีการตรวจยึดอาวุธปืน ของกลางที่ใช้ก่อเหตุ เอาไว้พร้อมกับสอบสวนปากคำ ผู้ก่อเหตุ ตลอดจนถึงพยานข้างห้อง ที่ได้ยินเสียง ในช่วงก่อนเกิดเหตุเอาไว้ทั้งหมด เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป