3 มีนาคม 2565 นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบกรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่างทรูกับดีแทค และการค้าปลีกค้าส่ง เปิดเผยว่า จากการศึกษาและประชุมของกรรมาธิการตลอด 6 ครั้งที่ผ่านมา พบว่า การยื่นขอควบรวมกิจการของทรูกับดีแทค จะก่อให้เกิดการผูกขาดทางการค้า เพราะบริษัทใหม่จะครอบครองตลาดเกิน 50% และลดการแข่งขันในภาพรวม เนื่องจากจะเหลือผู้ประกอบการเพียง 2 ราย คือ เอไอเอส กับบริษัทใหม่ ซึ่งตัวแทนสำนักงาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)และ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(กขค.) ยอมรับว่าดัชนีวัดการกระจุกตัว(HHI) จะเกิน 2500 และค่า HHI จะเพิ่มขึ้นเกิน 100 ใกล้เคียงกับการศึกษาของ TDRI ซึ่งแสดงว่า การควบรวมกิจการจะส่งผลให้การแข่งขันลดลงอย่างชัดเจน
โดย กสทช. ให้ความเห็นกับ กมธ.ว่าอำนาจของ กสทช.ตาม พ.ร.บ.และประกาศ กสทช.หลายฉบับ ไม่สามารถระงับการควบรวมกิจการในครั้งนี้ได้ ทำได้เพียงกำกับดูแลและออกมาตรการต่างๆ เท่านั้น ซึ่ง กมธ.เสนอว่าหากพิจารณาแล้วเป็นการ “ผูกขาดทางการค้าและเป็นอันตรายต่อการแข่งขันเสรี” กสทช.จำเป็นต้องออกประกาศฉบับใหม่ในปี 2565 เพื่อระงับการควบรวม ขณะที่ กขค. ได้ยืนยันว่า สำหรับกิจการโทรคมนาคมเป็นอำนาจของ กสทช. ในการพิจารณาดูแลและควบคุม อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ กสทช. ชุดปัจจุบัน ถูกคัดเลือกมาได้เพียง 5 คน และยู่ระหว่างการคัดเลือกจากวุฒิสภาอีก 2 คน ทำให้คณะกรรมการชุดเดิมต้องทำหน้าที่ไปก่อน
กมธ. ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะองค์กรเพื่อผู้บริโภค โดยเชื่อว่า กรอบการทำงานเวลา 90 วันของ กมธ.นั้นเพียงพอที่จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและเปิดเผยอย่างเป็นทางการต่อประชาชน สำหรับบทบาทของ กมธ. ปัจจุบันมีหน้าที่หลักในการศึกษา แต่ยอมรับว่าไม่สามารถแทรกแซงกระบวนการตามสิทธิ์ของภาคเอกชนได้ เช่น การประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทหรือระหว่างบริษัท
"จุดยืนของ กมธ. ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชน เกือบทุกคน คัดค้านการควบรวมในลักษณะที่ส่งผลต่อการผูกขาดอยู่แล้วและเป็นห่วงผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้น หากผลจากการศึกษาพบว่า มีแนวโน้มที่จะผูกขาดลดการแข่งขันในระดับที่เป็นอันตราย กมธ.จะเสนอต่อหน่วยงานของรัฐเพื่อหามาตรการยับยั้ง ไม่ให้เกิดการควบรวมกิจการ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม"นพ.ระวี กล่าว
เมื่อถามว่า มีแนวคิดที่จะทำประชาพิจารณ์เพื่อหาข้อสรุปหรือไม่ นพ.ระวี ตอบว่า ยังไม่มีการหารือในระดับนั้น จากการประชุมล่าสุดของ กมธ. เมื่อวานนี้(2 มี.ค.) ได้เชิญตัวแทนจาก ทรู ดีแทค และเอไอเอส เข้ามาให้ข้อมูลนั้น นพ.ระวี เปิดเผยว่า ทรูและดีแทค ยืนยันว่า จำเป็นต้องควบรวมเพื่อการพัฒนาและความอยู่รอดของบริษัทในอนาคตของ พร้อมกับย้ำว่า ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ ขณะที่ เอไอเอส ให้ความเห็นว่า ภายหลังการควบรวมดังกล่าว คาดว่าจะทำให้เป็นเรื่องยากที่จะมีบริษัทหน้าใหม่เข้ามาเป็นคู่แข่งขันในตลาดเพิ่มเติม