svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ป.ป.ช.เรียกสอบกลุ่มประชาสัมคมฯ กรณีร้อง"สมศักดิ์"ส่อเอื้อบ.เหมืองทองคำ

21 กุมภาพันธ์ 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ป.ป.ช.เรียกสอบกลุ่มประชาสัมคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ กรณีร้องเรียน "รมว.สมศักดิ์-อดีตอธิบดีดีเอสไอ-หัวหน้าพนักงานสอบสวนดีเอสไอ" ปล่อยข้อหาสำคัญหายไปจากสำนวน ส่อเอื้อบ.เหมืองทองคำ

นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ แกนนำกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจาก นายพูลศักดิ์ คูณสมบัติ หัวหน้าพนักงานไต่สวน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอทราบรายละเอียดตามคำกล่าวหาเพิ่มเติม หลังจากที่กลุ่มประชาสังคมฯ ร้องเรียนต่อป.ป.ช.วันที่ 14 ธ.ค.63 และได้มีหนังสือติดตามทวงถามผลการสอบสวนดำเนินคดีฉบับลงวันที่ 11 มี.ค.64 ฉบับลงวันที่ 21 มิ.ย.64 ฉบับลงวันที่ 28 ก.ย.64  และฉบับลงวันที่ 9 พ.ย.64 

ป.ป.ช.เรียกสอบกลุ่มประชาสัมคมฯ กรณีร้อง\"สมศักดิ์\"ส่อเอื้อบ.เหมืองทองคำ

กรณีกลุ่มประชาสังคมฯ ได้กล่าวหานายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรณีไม่ดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (อดีตอธิบดีดีเอสไอ)

 

และหนังสือ ลงวันที่ 1 ต.ค.62 กล่าวหา พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ กรณีไม่แจ้งข้อหา บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) กรณีการทำเหมืองแร่นอกเขตประทานบัตร กรณีสารพิษอันตรายรั่วไหลสู่ภายนอก กรณีการหลีกเสี่ยงภาษี การถือครองหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) และความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน

ป.ป.ช.เรียกสอบกลุ่มประชาสัมคมฯ กรณีร้อง\"สมศักดิ์\"ส่อเอื้อบ.เหมืองทองคำ

โดย สำนักงาน ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และสำนักงาน ป.ป.ช.มีความจำเป็นต้องขอทราบข้อเท็จจริงว่า ตั้งแต่ พ.ศ.2558-2563 ท่านมีหนังสือร้องเรียนต่อ บริษัท อัครา รีชอร์สเซส จำกัด (มหาชน) กระทำความผิดเกี่ยวกับการทำเหมืองนอกเขตประทานบัตร การปล่อยสารพิษรั่วไหลออกสู่ภายนอกการหลีกเลี่ยงภาษี การถือครองหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) และความผิดฐานฟอกเงินต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือไม่ อย่างไร พร้อมทั้งขอสำเนาหนังสือร้องเรียนดังกล่าว

นางวันเพ็ญ เปิดเผยว่า ป.ป.ช.แจ้งให้กลุ่มฯ ไปถ้อยคำต่อพนักงานไต่สวนป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ 22 ก.พ.65 เวลา 09.30 น. โดยให้นำสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรับรองสำเนาถูกต้องทุกแผ่นไปประกอบการให้ถ้อยคำ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้เป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และอำนาจตามความในมาตรา 34(2) ประกอบระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ.2561 ข้อ 33

ป.ป.ช.เรียกสอบกลุ่มประชาสัมคมฯ กรณีร้อง\"สมศักดิ์\"ส่อเอื้อบ.เหมืองทองคำ

นางวันเพ็ญ เปิดเผยว่า ประเด็นที่ยื่น ต่อ ป.ป.ช ให้สอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของ นายสมศักดิ์ และ พ.ต.อ.ไพสิฐ และหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 17/2559 สืบเนื่องจากที่กลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ ได้ยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในวันที่ 14 พ.ค.58 เพื่อขอให้เร่งรีบดำเนินการสอบสวนการประกอบกิจการทำเหมืองทองคำของบริษัทอัคราฯ ต่อมา ปี 2559 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 17/2559 และ ตั้งหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน พร้อมลงสอบสวน ข้อเท็จจริงพบว่ามีการกระทำความผิดตามข้อร้องเรียนหลายกรณี 

 

รวมถึงพยานหลักฐานครบถ้วนว่า บริษัทฯ กระทำการขุดถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1301 และทางสาธารณะประโยชน์ อันเป็นการทำเหมืองทองคำนอกเขตประทานบัตร เป็นการทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ. แร่ 2510 มาตรา 43 แต่กลับพบความผิดปกติ เนื่องจากกรณีความผิดดังกล่าวไม่ปรากฎอยู่ในสำนวนคดีที่ ที่ดีเอสไอ สรุปสำนวนส่งฟ้องไปยังอัยการ แสดงว่าดีเอสไอ เอาผิดไม่ครบถ้วน

ทางกลุ่มฯ จึงได้ยื่นเรื่องโต้แย้งคัดค้านไปยัง พ.ต.อ.ไพสิฐ เพื่อขอให้กำกับดูแลคดี และขอให้เร่งรีบดำเนินการเอาผิดกับบริษัทอัคราฯ ในข้อหาขุดถนนทำเหมืองทองคำนอกเขตประทานบัตร ให้ครบถ้วนตามกฎหมาย

ป.ป.ช.เรียกสอบกลุ่มประชาสัมคมฯ กรณีร้อง\"สมศักดิ์\"ส่อเอื้อบ.เหมืองทองคำ

และขอให้เร่งรีบสอบสวนเอาผิดกรณีบริษัทฯ เป็นผู้ครอบครองสารพิษอันตราย และเป็นผู้ทำให้รั่วไหลออกสู่ภายนอกพื้นที่การทำเหมือง รวมถึงขอให้เร่งรีบสอบสวนดำเนินคดีเอาผิดกรณีอาจจะมีการทำผิดกฎหมาย ข้อหา นอมินี เลี่ยงภาษี ฟอกเงิน ให้ครบถ้วนทุกคดี แต่ไม่ดำเนินการ และยืนยัน ว่า ไม่มีคดีเหลืออยู่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงเป็นเหตุทำให้ กลุ่มฯ ในฐานะผู้ร้อง ต้องยื่นเรื่องต่อ รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ต้องตรวจสอบกำกับดูแล คดีในดีเอสไอ เพื่อขอให้เร่งรีบดำเนินการเอาผิดกับบริษัทอัคราฯ ให้ครบถ้วนตามกฎหมาย และขอให้เร่งรีบดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.ไพสิฐ และหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 17/2559 กรณี ทำข้อหาสำคัญหายไปจากสำนวนการสอบสวน 

 

แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กลับเพิกเฉย ไม่ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ แต่อย่างใด และปล่อยให้คดีสำคัญหายไปจากสำนวนคดี ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศไทยมาจนถึงขณะนี้ คดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญของประเทศไทย กรณีนี้ จึงเป็นเหตุทำให้กลุ่มฯ ควรเชื่อได้ว่า อาจจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทอัคราฯ เพื่อมิให้ถูก ตรวจสอบ สอบสวน ดำเนินคดี เอาผิดตามกฎหมายของประเทศไทย จึงได้ยื่นต่อ ป.ป.ช เพื่อขอให้เร่งรีบสอบสวนดำเนินคดี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มาตรา 200 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยหากสอบสวนพบว่ามีการกระทำความผิดก็ขอให้ดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมายให้ถึงที่สุดต่อไป

logoline