เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
ความคืบหน้า กรณีเสือ 3 แม่ลูกเข้าทำร้ายหนุ่มชาวกระเหรี่ยง บ้านปิล็อกคี่ ม.4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส รอดตายหวุดหวิด รวมทั้งพบเสือโคร่ง 3 ขา กัดควายชาวบ้านตาย ที่บริเวณริมห้วยสะมะท้อ
ทั้งนี้ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งการนายสมปอง ทองสีเข้ม ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า มอบหมายให้นายสมโภชน์ ดวงจันทราศิริ หัวหน้าสถานี วิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ นำเจ้าหน้าที่ทีมงานนักวิจัยที่เชี่ยวชาญเรื่องเสือ เข้าพื้นที่ป่าปิล็อกคี่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่อง เสือโคร่งที่พบและเป็นข่าวมาอย่างต่อเนื่อง จำนวนหลายตัวนั้น มาจากไหนอย่างไร รวมทั้งแนวทางการป้องกันเสือ ทำร้ายสัตว์เลี้ยงและชาวบ้าน
นายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นายสมโภชน์ ดวงจันทราศิริ หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ พร้อมกำลัง จนท.สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ มูลนิธิฟรีแลนด์ จนท.ขสป.สลักพระ จนท.อุทยานฯเขาแหลม กว่า10 นาย เดินทางโดยใช้เรือเร็วของอุทยานฯ เขาแหลม ไปยังหมู่บ้านปิล็อกคี่ ม.4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ
จากนั้นเดินเท้าต่อเข้าป่าปิล็อกคี่ ไปยังห้วยปิล็อกคี่-ห้วยสะมะท้อ ซึ่งเป็นบริเวณที่เสือโคร่ง 3 ขา กัดควายชาวบ้าน จากหมู่บ้านราว 1 กม.พบว่า ชาวบ้านได้ทำรั้วไม้ไผ่กั้นขวางเส้นทางเดิน ตั้งแต่ในห้วยน้ำจรดเชิงเขายาวกว่า 30-40 เมตร สูงราว 2 เมตร รวม 3 แห่ง ห่างกันราว500เมตร เพื่อป้องกันวัวควายที่นำไปเลี้ยงในป่า ไม่ให้กลับหมู่บ้าน
ที่บริเวณริมห้วยสะมะท้อ ซึ่งกล้องดักถ่ายจับภาพเสือโคร่งพิการ3ขา กำลังกัดกินควายที่ล่า พบเหลือเพียงกะโหลกขาวโพลน รวมทั้งชิ้นส่วนกระดูก โดยไม่เหลือเนื้อแม้แต่น้อย นายสมโภชน์ ดวงจันทราศิริ หัวหน้าสถานี วิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ พร้อมทีมงาน ได้เข้าไปตรวจสอบ และเดินดูร่องรอยของเสือโคร่ง รอบบริเวณอย่างละเอียด พบว่าเสือ3ขาเดินเข้ามากินซากควาย ในแต่ละคืนนั้น จะไม่เดินซ้ำทางเก่า
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เปิดกล้องดักถ่าย ซึ่งติดไว้ที่ต้นไม้ริมลำห้วยห่างจากซากควายราว 2 เมตร โดยที่ผ่านมาช่วงวันที่ 5-8 ก.พ.65 จับภาพเสือ 3 ขาที่เข้ากินซากควายทุกคืนไว้ได้ แต่จากวันที่ 9 ก.พ.65 จนถึงขณะนี้ ไม่พบภาพเสือ 3 ขาหรือเสือตัวอื่นแต่อย่างใด
ส่วนกล้องดักถ่ายที่ติดตั้ง ตามเส้นทางไปห้วยสะมะท้อ พบภาพสัตว์ป่าหลายชนิด ทั้งหมี เก้ง อีเห็น ชะมด ซึ่งบ่งชี้ชัดว่า ป่าอุทยานฯเขาแหลมบริเวณนี้ มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์
จากการตรวจสอบร่องรอย พบว่าเสือโคร่งพิการมี 3 ขา เป็นเสือรุ่นเพศเมีย ไม่ใช่เสือประจำถิ่น หากินผ่านมาบริเวณนี้ หลังล่าควายและกินจนหมด ก็เดินทางจากที่นี่ต่อไป สามารถดำรงชีวิตในป่าได้เช่นเดียวกับมี 4 ขา
ส่วนซากอุ้งเท้าเสือที่เจ้าหน้าที่พบในลำห้วยปิล็อกคี่ เป็นขาหน้ายังมีเนื้อหนังคาดว่าราว 1 เดือน ไม่ใช่ชิ้นส่วนขาของเสือ 3 ขา ที่ขาหลังด้านขวาขาด ร่องรอยบาดแผลก็ไม่พบแล้ว เชื่อว่าหายมานานนับปี
สำหรับเสือโคร่งที่ตัวที่ทำร้ายนายหวาน น่าจะเป็นเสือพเนจรเพศเมียเช่นกัน ส่วนอีก 2 ตัวคงจะเป็นลูก เสือแม่ลูกอ่อนจะดุเพราะหวงลูก เมื่อแม่เสือพบนายหวาน จึงเข้าทำร้าย
ส่วนเสือโคร่ง 2 ตัวที่ถูก 5 พรานยิงนั้น ตรวจสอบอัตลักษณ์ พบว่าเป็นเสือประจำถิ่น ในป่าอุทยานฯทองผาภูมิ และเป็นแม่ลูกกัน เพศเมียทั้ง 2 ตัว
ด้านนายประสาท แดงเถิน ผู้ใหญ่บ้านปิล็อกคี่ เผยว่า ขณะนี้แม้ชาวบ้านจะต้อนวัวควายออกจากป่า มาเลี้ยงในหมู่บ้านแล้วก็ตาม ก็ยังหวั่นใจระแวงว่า เสือจะออกจากป่าตามมากัดกินสัตว์เลี้ยงที่หมู่บ้านอีก ต่างก็เร่งติดตั้งไฟสปอร์ตไลท์ ส่องสว่างบริเวณคอกสัตว์ เพื่อป้องกันเสือ แต่ก็ยังสบายใจที่มีเจ้าหน้าที่อุทยานฯเขาแหลม มาประจำอยู่ที่หมู่บ้าน คอยดูแลลาดตระเวน รอบหมู่บ้านทุกวัน
ภาพ/ข่าว : วุฒิเดช ก้อนทองคำ จ. กาญจนบุรี