ศาลอาญาคดีทุจริตฯกลาง เปิดทำการพิเศษสืบพยานโจทก์คดี อดีตผกก.โจ้ถุงดำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เปิดทำการนอกเวลาพิเศษในวันเสาร์ เพื่อนัดไต่สวนโจทก์ และจำเลยทั้ง 7 ในคดีหมายเลขดำ ที่อท 28/69 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์ นางสาวจันทร์จิรา ธนะพัฒน์ ที่ 1
นายจักรกฤษณ์ กลั่นดี ญาติผู้เสียชีวิต เป็นโจทก์ร่วมที่ 1-2

ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต ผกก.โจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวก เป็นจำเลยที่ 1-7 

โดยเมื่อวันที่ 18 กุมถาพันธ์ 2565 เรือนจำกลางคลองเปรม มีหนังสือแจ้งว่า มีการแพร่ระบาดของ
โรคติดเชื้อไวรัสโควิด- 19 ในช่วงขณะนี้ รวมทั้งจำเลยทั้ง 7 ที่จะเบิกตัวมาพิจารณาอยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยง ขออนุญาตพิจารณาคดีโดย ระบบการประชุมผ่านทางจอภาพตามหนังสือฉบับลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า หากมีการเบิกจำเลยทั้ง 7 มาพิจารณาที่ศาลอาจมีความเสี่ยงสูงในการคาดการณ์ว่าจำเลยทั้ง 7 ได้รับผลการตรวจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ และเพื่อป้องกันมิให้มีการแพร่ระบาด

ประกอบการพิจารณาคดีผ่านทางจอภาพก็มีความขัดเจน จึงให้เบิกตัวจำเลยทั้ง 7 พิจารณาผ่านระบบการประชุมทางจอภาพสืบพยานโจทก์ปากพันตำรวจเอกสุทธินันท์ คงแช่มมดี นางสาวกนกวรรณ คล้ายนิ่ม และดาบตำรวจชีวิน นิกรธรรมรัต รวม 3 ปาก

แล้วให้เสื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์ต่อไปนัดหน้า

คดีนี้ อัยการ ได้นำสำนวนยื่นฟ้องคดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ กับพวกรวม 7 คน ในความผิดฐาน

(1) เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต 

(2) เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

(3) ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย 

และ(4) ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น

อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,157,288,289(5),
309 วรรค 2 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4,172 โดยอัยการสูงสุดเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาและมีคำสั่งตามประมวลกฎหมาย  วิธีพิจารณาความอาญา 143 วรรคท้าย สืบเนื่องจากนายจิระพงษ์หรือมาวิน  ธนะพัฒน์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งถูกจับและควบคุมไว้ในคดียาเสพติดและถูกฆ่าถึงแก่ความตายขณะอยู่ในความความควบคุมของเจ้าพนักงาน เหตุเกิดช่วงระหว่างวันที่ 4 – 6 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์