17 กุมภาพันธ์ 2565 "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" หรือ วัฒนา ภู่โอบอ้อม นักสนุกเกอร์ระดับตำนานของไทย ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการโต๊ะสนุกเกอร์ หลังผู้ประกอบการสนุกเกอร์ในหลายจังหวัดต่างร้องเรียน เพราะถึงวันนี้ยังไม่มีคำสั่งให้เปิดกิจการได้ตามปกติ แม้จะถูกปิดมานานนับปีแล้วก็ตามจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 และยังไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ
โดยเพจเฟซบุ๊ก Tong Snooker Club ได้มีการเผยแพร่บทความเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว ระบุว่า...
เรื่องราวนี้คงจะไม่เกิดขึ้น หากการสั่งปิดกิจการหรือผ่อนปรนกิจการ ทำโดยเสมอภาคเท่าเทียมกัน จากต้นเหตุเดียวกันคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2019(พ.ศ.2562)
ไวรัสโควิด19 ไม่ยอมหมดไปจากโลกนี้ง่ายๆ อันรวมถึงผืนแผ่นดินไทย ที่ทุกหย่อมหญ้าได้รับผลกระทบ เดือดร้อนกันทั้งโลก และด้วยความหวั่นวิตก การแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ทำให้ประเทศไทย มีมาตรการป้องกัน ด้วยการล็อคดาวน์ ปิดเมือง ปิดประเทศตั้งแต่ระลอกแรก ในปี พ.ศ.2562(2019)
ผู้ประกอบการ และผู้ทำธุรกิจแทบจะทุกประเภท ต้องปิดดำเนินการนานหลายเดือน จนการแพร่ระบาดไวรัสโควิด19 ค่อยๆ คลี่คลาย ไปในทางที่ดีขึ้น จากนั้นทาง ศบค. ศูนย์บริหารการแพร่ระบาดไวรัสโควิด19 จึงค่อยๆออกคำสั่ง "คลายล็อค" ตามพื้นที่ต่างๆ และเลือกประเภทของธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อยให้ได้เปิดดำเนินกิจการก่อน แต่สำหรับ "สนุกเกอร์ และบิลเลียด" ต้องรอคอยต่อไปอีกนานพอสมควร
จนกระทั่ง ตัวแทนผู้ประกอบการ นำโดย คุณเอส ไชยพงศ์ กวรสุรมย์ ได้รวบรวมรายชื่อของสโมสรและสมาคม นับร้อยราย ร่วมลงชื่อและยื่นเสนอมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด19 เพื่อขอผ่อนปรนให้เปิดกิจการ "สนุ๊กเกอร์" ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยยื่นเรื่องขอผ่อนปรนจาก ศบค และสำนักงานจังหวัดกรุงเทพมหานคร และในที่สุด "กิจการสนุกเกอร์"ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้รับการผ่อนปรน ส่วนตามจังหวัดต่างๆ ยังคงให้อยู่ในดุลยพินิจของ ผู้ว่าราชการในแต่ละจังหวัด
แต่จากนั้นเพียงไม่ถึงสามเดือน ไวรัสโควิด19 ระลอกสอง กลับมาอีกครั้งในช่วงต้นปี พ.ศ.2563(2020) ทำให้มาตราการต่างๆ ที่ต้องเฝ้าระวังเพิ่มความเข้มข้น จากการระบาดที่เพิ่มมากขึ้น จนทุกจังหวัดต้องมีคำสั่งของจังหวัด ให้สั่งปิดกิจการทุกอย่างอีกครั้ง รวมทั้ง สนุกเกอร์ ที่ยังไม่ทันจะได้ลืมตาอ้าปาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการต่างจังหวัด หลายพื้นที่แทบจะไม่ได้เปิดให้บริการเลยด้วยซ้ำ
เวลาผ่านได้มาอีกนานพอสมควร จนกระทั่งสถานการณ์เกือบจะคลี่คลาย และการคลายล็อคในพื่นที่เสี่ยง ทาง ศบค ก็ได้เริ่มทยอยประกาศในช่วงกลางปี พ.ศ.2563 ทำให้หลายหลากธุรกิจได้กลับมาเริ่มทยอยเปิดตัว ได้ทำมาหากินกันตามปกติ แต่ก็ยังคงยกเว้นธุรกิจกลางคืนรวมทั้งกิจการที่มีความเสี่ยง และ "สนุกเกอร์" ก็ยังกลายเป็นธุรกิจในกลุ่มสุ่มเสี่ยงของการแพร่ระบาด โควิด19
ต่อมาในช่วงต้นปี พ.ศ.2564 ไวรัสโคโรน่า หรือโควิด19 ได้กลายพันธุ์สู่สายพันธุ์ เดลต้า และได้กลับมาอาละวาดไปทั่วโลก โดยการแพร่ระบาดในประเทศไทย เริ่มกลับมารุนแรงอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง และคราวนี้รุนแรงมาก จนทำให้เตียงรักษาผู้ป่วย และตามโรงพยาบาลสนามสูง มียอดผู้ป่วยสูงถึง สองแสนราย ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤตการขาดแคลนเตียงรักษา และอุปกรณ์การแพทย์อย่างหนักราว 3-4 เดือน
พอเข้าช่วงมิถุนายน2564 การนำเข้าวัคซีนนานาชนิด เริ่มทยอยมาฉีดให้กับพี่น้องประชาชน สถานการณ์วิกฤตของการแพร่ระบาด โควิด19 สายพันธุ์เดลต้า เริ่มชะลอตัว
และเมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้น เมื่อการฉีดวัคซีนเข็มแรกเริ่มผ่านไป ยอดผู้ติดเชื้อลดลง ยอดผู้ป่วยกำลังรักษาตัวเริ่มลดระดับจากสองแสนราย ลดลงมาเรื่อยๆ พร้อมกับมาตราการผ่อนปรน ให้ธุรกิจการค้า ทยอยเปิดกิจการตามอัตราการลดลงของผู้ติดเชื้อ
แต่ผู้ประกอบการ สโมสร/สมาคมสนุกเกอร์ ที่อยู่ต่างจังหวัด ก็ยังคงเปิดไม่ได้ ส่วนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก็ได้ตัวแทนของผู้ประกอบการ ยื่นเอกสารขอผ่อนปรน พร้อมกับมาตราการป้องกันโควิด19 จนได้รับการผ่อนปรนให้เปิดกิจการได้อีก
จนมาล่าสุด ไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด19 สายพันธุ์ล่าสุด โอมิครอน ที่มีอัตราการแพร่ระบาดรวดเร็วยิ่งกว่าสายพันธุ์ เดลต้า เพียงแต่ผลลัพธ์ยังไม่รุนแรงเท่า ก็กลับมาอีกในต้นเดือน มกราคม พ.ศ.2565(2022)
ยอดผู้ติดเชื้อที่ลดลงเหลือเพียง 2-3 พันรายต่อวัน ยอดผู้เสียชีวิตที่ลดลง และผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวลดต่ำกว่า สามหมื่นราย กลับค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2565
ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 ยอดผู้ป่วยติดเชื้อทะลุหลักหมื่น ต่อเนื่องจากถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 รวมทั้งยอดผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนามพุ่งเกินหลักแสนที่ 138,295 ราย ในระยะเวลาเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์
ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนั่นเอง จังหวัดต่างๆ ที่มีเจ้าของกิจการผู้ประกอบการ และผู้ที่ทำงานในสโมสร/สมาคม สนุกเกอร์คลับ ได้ขอความช่วยเหลือให้ เพจ Tong Snooker Club ได้ช่วยประสานงาน ให้ผู้ประกอบการ สโมสร/สมาคมสนุกเกอร์ กลับมาเปิดกิจการด้วย ได้แก่จังหวัดตาก,จันทบุรี,ปราจีนบุรี, สุพรรณบุรี,ราชบุรี,ชุมพร,อุบลราชธานี, ร้อยเอ็ด และนครราชสีมา
ทั้ง 9 จังหวัด สโมสร/สมาคมสนุกเกอร์ ได้ถูกสั่งปิดมานานนับปี และยังไม่เคยได้รับการผ่อนปรนให้เปิดกิจการ อีกทั้งผู้ประกอบการและคนที่ทำงานในสถานประกอบการสนุกเกอร์ ก็ไม่เคยได้รับเงินเยียวยา เงินช่วยเหลือจากภาครัฐ
ทำให้ "พี่น้องคนทำงานสนุกเกอร์ ต้องเดือดร้อนขาดรายได้ ไม่มีงานทำ ทั้งภาระค่าเช่าห้อง,ค่ากินอยู่ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ จนต้องเป็นหนี้สินที่จะต้องกู้ยืมมาเพื่อความอยู่รอด
ทางเพจ Tong Snooker Club ได้ตรวจสอบข้อมูลไปยัง คำสั่งของจังหวัดต่างๆ ตามที่มีผู้แจ้งมาเพื่อขอความเป็นธรรม และขอความช่วยเหลือให้ช่วยประสานงาน ให้กิจการสนุกเกอร์กลับมาเปิดดำเนินการเหมือนกับธุรกิจอื่นๆ
ปรากฏว่า ล่าสุดมีคำสั่งของจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ออกมาสั่งปิด "สนุกเกอร์ " ต่อไปอีก โดยคำสั่งล่าสุดส่วนใหญ่ จะลงวันที่ในเดือนมกราคม และช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565
เลยกลายเป็นว่า สโมสร/สมาคมสนุกเกอร์ ที่มีอยู่ในจังหวัดต่างๆ ข้างต้น ก็ยังไม่เคยได้เปิดให้บริการมาตลอด ซึ่งบางจังหวัดยาวนานจนเกือบ 3 ปี จนทำให้ผู้ประกอบการหลายราย ต้องปิดกิจการและมีพนักงานต้องตกงานเป็นจำนวนมาก และไม่เคยได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ
จากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า โควิด19 สายพันธุ์ โอไมครอน มี่แพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบันนี้ ก็ไม่เคยเกิดคลัสเตอร์จาก "กิจการสนุกเกอร์"
ซึ่งหากเปรียบเทียบความเสี่ยง ในการแพร่ระบาด สนุกเกอร์ยังมีความเสี่ยงน้อยกว่า ห้างสรรพสินค้า หรือ นวดแผนโบราณ เสียด้วยซ้ำ ทั้งจำนวนของผู้คน และระยะห่าง ความเสี่ยงของกิจการสนุกเกอร์น้อยกว่าเยอะ
"คนในวงการสนุกเกอร์" จึงใคร่ขอร้อง วิงวอนขอความเป็นธรรมจาก ผู้ใหญ่ผู้รับผิดชอบและเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะท่านผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ได้โปรดพินิจ วิเคราะห์ ไตร่ตรอง และได้โปรดพิจารณาผ่อนปรนให้กับ ผู้ประกอบการกิจการสนุกเกอร์ทั่วประเทศด้วย
หากจะประเมินโดยรวม จากสถานประกอบการทั่วประเทศ จะมีผู้เกี่ยวข้อง ที่จะต้องประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น ผู้จัดการ , พ่อครัวแม่ครัว , แคชเชียร์ , ม๊ากเกอร์-ม๊าคกี้ , แม่บ้าน และตำแหน่งงานอื่นๆ รวมกันไปต่ำกว่าสองแสนราย นั่นก็หมายถึงอีกสองแสนครอบครัวที่เดือดร้อน ที่ต้องรอเงินส่งเสียเลี้ยงดูจากคนในอาชีพ "สนุกเกอร์"
ซึ่ง "คนทำงานในอาชีพสนุกเกอร์" ก็คือพี่น้องชาวไทย ที่ได้รับผลกระทบและเดือดร้อน ไม่น้อยไปกว่า พี่น้องชาวไทยทุกๆคน และกำลังรอคอยการตัดสินใจ ให้การช่วยเหลือ ผ่อนปรน คลายล็อค สถานประกอบการ "สนุกเกอร์" ทั่วประเทศไทย อยู่ในเวลานี้
"ช่วยพวกเราเถอะ เดือดร้อนกันมากจริงๆ"
อย่างน้อยได้มีหนทาง มีช่องทางที่จะต่อสู้กับชีวิตที่เหลือ ย่อมดีกว่า ไม่มีหนทางอะไรเลย!!
นอกจากนี้ เพจ Tong Snooker Club ยังได้เผยแพร่คลิปที่ "ต๋อง" กล่าวถึงข้อเรียกร้องนี้ โดยขอให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเห็นใจคนในวงการสอยคิวบ้าง เพราะตอนนี้แทบจะอดตายกันหมดแล้ว