svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ตร.วางกำลังคุมเข้มเฝ้าระวังป้องกันเหตุ สถานทูตฯ “รัสเซีย-ยูเครน”

15 กุมภาพันธ์ 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สตช.ส่งตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเฝ้าระวังป้องกันเหตุ สถานทูตฯ "รัสเซีย-ยูเครน" เต็มที่ ระบุ เฝ้าติดตามสถานการณ์ของทั้ง 2 ประเทศใกล้ชิด เผย การข่าวยังไม่พบผลกระทบต่อความมั่นคงของไทย แต่ไม่ประมาท

ตร.วางกำลังคุมเข้มเฝ้าระวังป้องกันเหตุ สถานทูตฯ “รัสเซีย-ยูเครน”

15 กุมภาพันธ์ 2565 พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) มีการติดตามสถานการณ์ด้านการข่าว เกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยยังไม่พบการข่าวที่กระทบต่อความมั่นคงของไทย แต่ก็ไม่ประมาท โดยขณะนี้ มีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ดูแลสถานทูตของทั้ง 2 ประเทศและสถานที่พักเจ้าหน้าที่ทูตในไทยแล้ว

 

“แม้ความขัดแย้งจะไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย แต่ตำรวจสันติบาล ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจไซเบอร์ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันเหตุที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากพบความขัดแย้งระหว่างบุคคล 2 ประเทศ ขอประชาชนแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ตำรวจทำการตรวจสอบ”

ตร.วางกำลังคุมเข้มเฝ้าระวังป้องกันเหตุ สถานทูตฯ “รัสเซีย-ยูเครน”

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เบื้องต้น ทางสถานเอกอัครราชทูตยูเครนและสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ยังไม่มีการทำหนังสือร้องขอให้ทางตำรวจเข้าพื้นที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม แต่ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้เพิ่มมาตราการดูแลพื้นที่บริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีตำรวจสันติบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง เฝ้าระวัง รวมถึง ตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ เฝ้าระวังในพื้นที่สถานทูตดังกล่าวทั้ง 2 แห่ง      

 

ส่วนชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยนั้น จะมีการเฝ้าระวัง หากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น จะทำการตรวจสอบเพิ่มเติม ในการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล และถิ่นที่อยู่ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศหรือไม่ต่อไป

ทั้งนี้ ยูเครน เป็นประเทศที่มีพื้นที่คั่นกลางระหว่างรัสเซียกับยุโรป  เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียตถึงปี 2534 แต่มีปัญหาการเมืองภายในอย่างต่อเนื่อง จากฝ่ายที่สนับสนุนรัสเซีย และกลุ่มที่พยายามใกล้ชิดตะวันตก โดยในเดือนมีนาคม 2557 กองทัพรัสเซียจึงได้เข้ายึดครองภูมิภาคไครเมีย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของยูเครน ก่อนการผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และยังสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนอีกหลายกลุ่ม โดยอ้างว่าเพื่อคุ้มครองประชาชนจากความขัดแย้งทางชาติพันธุ์

 

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลยูเครน ขอสมัครเป็นสมาชิก NATO ทำให้รัสเซียมองว่า เป็นภัยคุกคามต่อรัสเซียโดยตรง จึงมีการเสริมกำลังทหารและซ้อมรบใกล้พรมแดนยูเครนอย่างต่อเนื่อง จนหลายฝ่ายเกรงว่าอาจเกิดความขัดแย้งทางทหารจนถึงขึ้นการใช้กำลังรุกรานได้ หลายประเทศจึงเตือนให้ประชากรที่อยู่ในยูเครนเร่งอพยพกลับประเทศโดยด่วน

logoline