เป็นประเด็นต่อเนื่องจากรณีที่นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” ออกมาแถลงข่าวพูดถึง “สมปอง” หรือ “นายสมปอง นครไธสง” อดีตพระนักเทศน์ชื่อดังประกาศถอนตัวจากรายการที่ทีวีพูลกรุ๊ปซึ่งเป็นผู้ผลิต 3 รายการ และขนย้ายข้าวของออกจากบ้าน ทั้งที่ยังติดสัญญา 2 ปี และยังระบุว่าอดีตพระมหาดังกล่าวมีหนี้สิน 10.9 ล้านบาท จากการไล่ซื้อที่ดิน ส.ป.ก. กว่า 300 ไร่ เพื่อปลูกยางพารา ซึ่งสร้างความแปลกใจต่อสังคมเป็นอย่างยิ่งว่า ที่ดินที่ถูกกล่าวถึงปล่อยให้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้อย่างไร
จนต่อมา “นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย” ออกมาระบุว่าจะทำคำร้องเป็นหนังสือส่งไปยังเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เพื่อขอให้ตรวจสอบที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิตรวจสอบในเรื่องนี้
ทำความรู้จักที่ดิน ส.ป.ก. สามารถทำอะไรได้บ้าง
ส.ป.ก. คือ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร
ที่ดิน ส.ป.ก. คือ ที่ดินบริเวณที่ได้ประกาศให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งจะอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ส.ป.ก.4-01 คือ หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งออกตาม พ.ร.บ. ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกให้กับประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 โดยมีหลักว่าที่ดินในเขตปฏิรูปใช้ทำเกษตรกรรมได้อย่างเดียวเท่านั้น ทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้ และผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 จะต้องมีฐานะยากจน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องที่ดินและปัญหาการถูกนายทุนเอาเปรียบ
ที่ดิน ส.ป.ก. สามารถซื้อขายได้หรือไม่ ?
ที่ดิน ส.ป.ก. ไม่สามารถซื้อขายได้ เนื่องจากพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ตามมาตรา 39 ระบุว่า “ที่ดินที่บุคคลได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะทำการแบ่งแยกหรือโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นมิได้ เว้นแต่เป็นการตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรม หรือโอนไปยังสถาบันเกษตรกร หรือ ส.ป.ก. เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง” ซึ่งหากมีการทำการซื้อขายก็จะถือว่าเป็นโมฆะและเป็นความผิดอาจจะต้องมีโทษทางอาญาและจำคุกด้วย
สามารถครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ได้กี่ไร่
ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ระบุไว้ว่า
(1) เกษตรกรและบุคคลในครอบครัวเดียวกันซึ่งประกอบเกษตรกรรมประเภทอื่นเว้นแต่ (2) จำนวนไม่เกินห้าสิบไร่
(2) เกษตรกร และบุคคลเดียวกัน ซึ่งประกอบเกษตรกรรม เพื่อการเลี้ยงสัตว์จำพวกสัตว์ใหญ่ตามที่รัฐมนตรีประกาศตามมาตรา 29 (2) จำนวนไม่เกินหนึ่งร้อยไร่
(3) สถาบันเกษตรกรซึ่งจะนำที่ดินไปจัดให้แก่เกษตรกรรมตาม (1) หรือ (2) เช่าระยะยาว หรือเช่าซื้อ จำนวนเนื้อที่ดิน ตามแต่คณะกรรมการจะเห็นสมควร
สามารถถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ได้อย่างไร
ที่ดิน ส.ป.ก. สามารถทำการแบ่งแยก โอน หรือเป็นมรดกตกทอดไปยังบุคคลอื่นในครอบครัวเท่านั้น เช่น บิดา มารดา สามี ภรรยา หรือบุตร ซึ่งจะมีสิทธิเช่าหรือเช่าซื้อเพื่อการเกษตรกรรมเพียงอย่างเดียว โดยไม่อนุญาตให้เช่าเพื่อจุดประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากนี้ ที่ดิน ส.ป.ก. ไม่สามารถนำไปจดทะเบียนจำนองได้ ซึ่งหากรัฐตรวจสอบว่าผู้ที่ครอบครองที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินในการทำกิน ทางรัฐสามารถเรียกคืนได้เช่นเดียวกัน
ผู้มีสิทธิได้รับการจัดที่ดิน ส.ป.ก.
ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ระบุ ผู้มีสิทธิได้รับการจัดที่ดิน ส.ป.ก. มี 3 ประเภท คือ
1. เกษตรกร เป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักอยู่แล้ว โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ในรอบปี เพื่อประกอบเกษตรกรรมแห่งท้องถิ่นนั้น
2. ผู้ประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก
- ผู้ยากจน มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/คน/ปี
- จบการศึกษาทางเกษตรกรรม ไม่ต่ำกว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า
- เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
3. สถาบันเกษตรกร
- กลุ่มเกษตรกร
- สหกรณ์การเกษตร
- ชุมชนสหกรณ์การเกษตรตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์
หากมีคุณสมบัติตามที่กำหนดดังกล่าวข้างต้น สามารถยื่นคำร้องเพื่อขอรับการจัดที่ดิน ณ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัด โดยให้จัดเตรียมเอกสารและหลักฐาน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน และหลักฐานการมีที่ดิน (ถ้ามี) เพื่อให้ ส.ป.ก.จังหวัด ตรวจสอบคุณสมบัติและดำเนินการจัดหาที่ดิน และจัดที่ดิน ส.ป.ก.ต่อไป