ความคืบหน้าเหตุ “น้ำมันดิบรั่ว” บริเวณมาบตาพุด จ.ระยอง ของบริษัทสตาร์ปิโตรเลี่ยม จำกัด มหาชน ตั้งแต่เวลา 00.10 น.ของวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหลายฝ่ายกังวลใจว่า คราบน้ำมันที่พัดเข้าฝั่งตัวเมืองระยอง จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศนั้น
ล่าสุดนายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “Thon Thamrongnawasawat” ว่า สื่อมวลชนในพื้นที่ส่งภาพมาให้ คราบน้ำมันเริ่มเข้าอ่าวพร้าวแล้วครับ ดูจากภาพ จะเห็นเรือหลายลำทางมุมซ้ายของภาพ ตรงนั้นน่าจะป็นจุดที่จัดการคราบกลางทะเล มีรายงานว่าห่างไป 2-3 กิโลเมตร
ขณะที่เรือสีน้ำเงินทางมุมขวา คือเรือ 804 ของกรมทะเลที่สแตนบายด์ตั้งแต่เมื่อวาน (30 ม.ค.) มองดูในน้ำ เห็นสีดำปะปนอยู่บ้าง ขณะที่บนหาดมีคราบสีดำ หากวิเคราะห์ตามสถานการณ์ เราพูดกันถึงน้ำมันมาทางเกาะเสม็ด ผมอยู่ในที่ประชุมที่มีท่านรัฐมนตรีวราวุธ เราปรึกษากันว่าน้ำมันอาจจะมาอ่าวพร้าว
อ่าวพร้าว ปากอ่าวกว้าง 500 เมตร หาดทรายยาว 400 เมตร เป็นอ่าวที่รับและสะสมคราบน้ำมันที่มาตามแรงคลื่นลม ด้านซ้ายและขวาของอ่าวมีแนวปะการัง แต่จากประสบการณ์ มองออกทะเล แนวปะการังด้านซ้ายน่าห่วงกว่า เป็นบริเวณที่เคยได้รับผลกระทบ
วันนี้น้ำลงต่ำมากตอนเย็น/ค่ำ เรื่อยไปอีก 2-3 วัน ช่วงน้ำลงต่ำ คราบน้ำมันอาจมีโอกาสสัมผัสปะการัง การดูผลกระทบต้องไม่ดูในที่ลึก แต่ต้องดูปะการังที่อยู่น้ำตื้น ซึ่งมีปะการังก้อนอยู่เยอะ
“ผมมีหลายก้อนที่ติดตามมาเป็นปีๆ ผลกระทบต่อปะการัง หากโดนคราบน้ำมันโดยตรงเยอะหน่อย จะขาวเวอร์ตายภาวใน 24 ชั่วโมง หากโดนน้อยก็อาจสีซีดเริ่มฟอกขาว จะฟื้นไม่ฟื้น บอกยาก แต่ปะการังแถวนั้นจะอ่อนแอ และมีโรคปะการังติดตามมา หากเจอกับโลกร้อนน้ำร้อน จะตายง่ายขึ้น”
บนชายหาดเป็นที่อยู่ของปูทหาร เราเคยติดตามความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งก่อน หนนี้เราพอทราบว่าอาจเข้าอ่าวพร้าว มีการเตรียมแผ่นซับไว้ในพื้นที่อยู่ด้วย การติดตามคราบน้ำมันให้ชัดเจน ต้องรอตอนน้ำลงต่ำ จะเห็นคราบที่ตกค้าง รวมถึงคราบที่อาจลงมาตามน้ำเข้าใกล้ปะการัง
ยังต้องตามดูคราบในทะเลที่เริ่มเคลื่อนที่มาทางตะวันออก ใกล้เกาะเสม็ดมากขึ้นเรื่อย เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ช่วยกันเต็มความสามารถ โดยเฉพาะกรมทะเลที่ต้องเหนื่อยอีกนานครับ