svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

คนขับแท็กซี่ จ.ภูเก็ต เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

31 มกราคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คนขับแท็กซี่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่กมลา ภูเก็ต เข้ารับทราบข้อกล่าวหา หลัง นทท.ชาวไทย แจ้งความข่มขู่ เหตุมีปากเสียงกรณีค่าโดยสารแพง ยอมรับมีอารมณ์ เพราะถูกกล่าวหาว่า “โกง” ทั้งที่ยังไม่ได้ใช้บริการ และเงินก็ยังไม่ได้จ่าย

กรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อ Kevin Phol นักท่องเที่ยวชาวไทย ไปใช้บริการร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และได้โพสต์คลิปวีดิโอ หลังเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ผ่านแอพ “Bolt” แต่ทางผู้ให้บริการไม่สามารถเข้ามารับได้ โดยอ้างว่ามีรถแท็กซี่ในพื้นที่อยู่แล้ว จึงได้มาสอบถามราคาแท็กซี่บริเวณหน้าร้าน บอกราคา 600 บาท ซึ่งสูงกว่าทาง “Bolt” มาก
               

คนขับแท็กซี่ จ.ภูเก็ต เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

ผู้โพสต์คลิป ได้ต่อว่าคนขับรถแท็กซี่ทำนองว่าโกง จนเกิดการโต้เถียงกัน และอ้างว่าคนขับรถแท็กซี่แสดงท่าทางข่มขู่จะทำร้าย พร้อมท้าทายให้โทรศัพท์หาตำรวจได้เลย เพราะเป็นพวกกัน เมื่อตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุกลับไม่มีการนำตัวคนขับแท็กซี่ไปทำการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ปล่อยให้ผู้เสียหายเดินทางไปลงบันทึกประจำวันเพียงฝ่ายเดียว

             คนขับแท็กซี่ จ.ภูเก็ต เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (30 ม.ค.65) นายเจษฎา คหาปนะ คนขับแท็กซี่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.กมลา อ.เมืองภูเก็ต คู่กรณีนักท่องเที่ยวชาวไทย พร้อมด้วยภรรยา ได้เดินทางมายัง สภ.กมลา เพื่อเข้าพบ พ.ต.ท.สมนึก ดำแก้ว รอง ผกก.สส.(สอบสวน) สภ.กมล และรับทราบข้อกล่าว หลังจากเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เฆวินทร์ พล นักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ตามคดีอาญาที่ 30/2656 กรณีที่มีการโต้เถียงกันจนกลายเป็นการข่มขู่ และทำให้เกิดการเกรงกลัว

นายเจษฎา คหาปนะ เล่าถึงเหตุการณ์วันเกิดเหตุว่า หลังจากที่ร้านอาหารปิดให้บริการคู่กรณีก็ได้เดินผ่านหน้ากลุ่มของแท็กซี่ที่มารองรับลูกค้าอยู่บริเวณหน้าร้าน ซึ่งน้องคนขับแท็กซี่ได้มีการสอบถามเขาแต่ไม่มีการตอบอะไร และเห็นเขาเดินไปคุยกับผู้ให้บริการรถตุ๊กตุ๊กที่มาจอดรอรับผู้โดยสารเช่นกัน ซึ่งไม่ทราบว่าคุยอะไรกัน จากนั้นก็เดินกลับมายังเพื่อร่วมงานของตนคนหนึ่งและถามว่าไปโรงแรมในซอยนา ป่าตองราคาเท่าไหร่ ซึ่งเพื่อนตนตอบว่า 600 บาท
                คนขับแท็กซี่ จ.ภูเก็ต เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

และตนก็ได้เดินเข้าไปเนื่องจากเป็นคิวของตนในการออกให้บริการตามที่มีการตกลงกันในกลุ่ม ซึ่งคำแรกที่เขาพูดกลับมา คือ “คุณโกง” แทนที่จะมีการต่อรองว่า ราคาแพงไปขอลดลงหน่อยได้หรือเปล่า ตนจึงถามกลับไปว่า โกงอย่างไร ซึ่งเขาตอบกลับมาว่า ในแอพพลิชั่น “Bolt” ราคาแค่ 160 บาท ตนจึงได้ชี้แจงไปว่า รถของตนเป็นโลว์คัลแท็กซี่ ซึ่งราคานี้ให้บริการมาตั้งแต่ร้านอาหารเปิด และอาจจะมีเพิ่มตามระยะทาง หรือจำนวนผู้โดยสาร
            

 “จะบอกว่าไปป่าตองราคา 500 บาท ตายตัวคงไม่ใช่ แต่บางครั้งจำนวนผู้โดยสาร 5-6 คน ราคาก็ขยับขึ้นไปตามความเหมาะสม โดยราคากลางจะอยู่ 500 บาท ส่วนกรณีของผู้เสียหายที่แจ้งไปว่า 600 บาท เนื่องจากระยะทางจะเข้าไปในซอยบ้านนาใน ซึ่งเลยจากตัวเมืองป่าตองไปอีกพอสมควร ประกอบกับเป็นช่วงดึกด้วย แต่เขาก็ยืนยันคำเดิมว่าตนโกง ซึ่งตนบอกว่าหากต้องการจะไปรถที่ติดผ่านแอพพลิชั่นก็ไป ไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญหรือว่าอะไรมากมาย”
              

 นายเจษฎา กล่าวชี้แจงกรณีที่ผู้เสียหายบอกว่ารถจากพื้นที่จอดไม่ได้ ว่า อยากให้ไปเปิดแอพพลิชั่นต่างๆ ดูว่า จะมีการปักหมุดอยู่ที่โรงแรมที่เลยไปจากร้านอาหารดังกล่าว ซึ่งไม่ทราบว่าเพราะอะไร และที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการรถจากแอพพลิเคชั่นก็มีจำนวนมาก และเดินไปในจุดดังกล่าว บางคันจอดรับบริเวณที่กลุ่มของตนให้บริการก็มี และไม่ได้มีการไปห้ามไม่ให้รับลูกค้า เพียงแต่บอกว่า บริเวณนี้มีรถให้บริการอยู่ให้ไปรับจุดอื่นได้หรือเปล่า เพราะเราถือเป็นเพื่อนร่วมอาชีพกัน ไม่ได้บังคับว่าจะต้องมาใช้บริการรถของกลุ่มแต่อย่างใด

 

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นายเจษฎา ก็ยอมรับว่า มีอารมณ์ เพราะมีการกล่าววหาว่าตนโกง ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ใช้บริการ และเหมือนมีการยั่วยุแต่ฝั่งของตนไม่มีคลิปที่จะไปโต้แย้งว่าเขาทำอย่างไร เพราะจริงๆ แล้วฝ่ายเขามีผู้หญิงถ่ายคลิปตั้งแต่ถามราคารถแล้ว ก่อนที่ผู้ชายจะเป็นคนถ่ายต่อ แต่ได้มีการตัดต่อ และพยายามยั่วยุว่าให้เข้ามาต่อยเลย
    

ส่วนจะเมาหรือไม่นั้นตนไม่ทราบได้ ซึ่งตนทำงานอยู่นั้นตั้งแต่ร้านแห่งนี้เปิดให้บริการใหม่ๆ และเจอลูกค้าทุกประเภท ส่วนใหญ่เมื่อเสนอราคาไปลูกค้าก็จะต่อรองก่อน โดยเฉพาะผู้ได้คิวหลังๆ หากคิวแรงไม่ได้คิวหลังก็รับไป บางคนเมื่อขึ้นนั่งบนรถแล้วถูกใจก็จะมีการให้ทิปด้วย ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ใช้บริการ
  คนขับแท็กซี่ จ.ภูเก็ต เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

 “เหตุที่ตนโกรธ เพราะเขามากล่าวว่า โกง ซึ่งเงินเขาก็ยังไม่ได้จ่าย รถก็ยังไม่ได้ขึ้น แค่เพียงถามราคา แล้วมากล่าวว่า โกง จึงอยากรู้ว่าโกงตรงไหน จึงได้เดินเข้าไปถามและอยากได้คำตอบว่า อะไรที่ทำให้เขาคิดว่าตนโกง ซึ่งคาใจมากกับคำนั้น เพราะการซื้อขายสินค้าแม้แต่ราคาปลาในตลาดสด ยังมีการต่อรองราคา ซึ่งคุยกันได้ บางครั้งให้ 200 บาท ตนก็ไปหากถูกใจ บางคนไปส่งฟรีก็มี เพราะสงสารลูกค้ากินเหล้าจนเงินหมด เช้าต่อมาลูกค้าจึงเอาเงินมาจ่ายให้ ทั้งหมดอยู่ที่ความพึงพอใจ” นายเจษฎา กล่าวและว่า คงไม่มีการแจ้งความกลับ อยากให้ปัญหาจบและไม่มีอะไรที่จะฝากถึงคู่กรณี

 

ภาพ/ข่าว : สาลินี ปราบ จ.ภูเก็ต

logoline