ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และ นพ.อดิศัย ภัตตาตั้ง ผอ.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แถลงข่าวการจัดบริการวัคซีนโควิด 19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี
นพ.โอภาสกล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ล็อตแรก 3 แสนโดส มาถึงไทยเมื่อวานนี้ (26 มกราคม) ได้ส่งวัคซีนและเอกสารให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบคุณภาพ จากนั้นจะส่งไปยังจุดฉีดทั่วประเทศต่อไป สำหรับวัคซีนที่เหลือจะทยอยส่งทุกสัปดาห์จนครบ 3.5 ล้านโดส ภายในไตรมาสแรก
โดยวัคซีนสูตรเด็กอายุ 5-11 ปี จะฉีดคนละ 0.2 มิลลิลิตร (10 ไมโครกรัม) 1 ขวดฉีดได้ 10 คน มีข้อดีคือเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ได้นานขึ้นเป็น 10 สัปดาห์ หลังเปิดใช้แล้วต้องฉีดให้หมดภายใน 2-6 ชั่วโมง การฉีดเด็กทั่วไปที่โรงเรียน
จะใช้ระบบเดียวกับการฉีดในเด็กมัธยมศึกษา กำหนดฉีด 2 เข็มห่างกัน 8 สัปดาห์ ส่วนเด็กที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ได้แก่
ทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทรุนแรง และเด็กที่มีพัฒนาการช้า จะฉีดที่โรงพยาบาล ระยะห่างสามารถนานได้ถึง 12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกุมารแพทย์ที่เป็นผู้รักษา ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนให้กับเด็กยังเป็นไปตามความประสงค์ของผู้ปกครองไม่มีการบังคับ
ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เด็กที่ติดเชื้อโควิด 19 พบว่า 98% มักไม่มีอาการหรืออาการน้อยถึง แต่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีน โดยเฉพาะเด็กมีโรคประจำตัว เพื่อป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิต และลดกลุ่มอาการอักเสบหลายระบบ (MIS-C)
ส่วนผลข้างเคียงหลังการฉีดในเด็กอายุ 5-11 ปี จากข้อมูลของสหรัฐอเมริกาที่ฉีดแล้ว 9 ล้านคน อาจพบอาการปวดบวมแดงบริเวณที่ฉีด อาการไข้น้อยกว่าเด็กโต แต่อาการทั้งหมดหายได้ใน 2 วัน อาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบพบ 11 คน แต่ไม่รุนแรงและรักษาหายทั้งหมด
ทั้งนี้ ในอังกฤษและออสเตรเลียให้ฉีดห่างกัน 8 สัปดาห์ เนื่องจากภูมิคุ้มกันสูงขึ้น ผลข้างเคียงน้อยลง อาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบยิ่งน้อยลงจนแทบไม่มีเลย การฉีดในโรงเรียนจึงแนะนำห่างกัน 8 สัปดาห์ ส่วนเด็กที่มีโรคประจำตัวและกลัวว่าจะติดเชื้อก่อน แนะนำประมาณ 4 สัปดาห์ แต่ไม่ควรเร็วกว่านั้น
ด้าน นพ.อดิศัย กล่าวว่า ประเทศไทยมีเด็กอายุ 5-11 ปี ประมาณ 5 ล้านคน ในจำนวนนี้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคประมาณ 9 แสนคน ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในเด็กที่มีโรคประจำตัวเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครอง โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. จะบริหารวัคซีนตามจำนวนเด็กอายุ 5-11 ปีที่มีโรคประจำตัวและผู้ปกครองยินยอม
จำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรร และความพร้อมของบุคลากร รวมถึงกุมารแพทย์ที่ให้การดูแลแต่ละจังหวัด มีขั้นตอนประกอบด้วย
ทั้งนี้ หลังฉีดวัคซีนแล้วเด็กมีอาการผิดปกติที่ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อประเมินอาการ คือ
สำหรับการเริ่มต้นฉีดวัคซีนเด็กอายุ 5-11 ปี ที่มีโรคประจำตัว วันที่ 31 มกราคมนี้ ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เป็นการฉีดเพื่อทดสอบระบบ โดยก่อนมาฉีดจะมีการโทรศัพท์ให้ข้อมูลผู้ปกครองและสอบถามความสมัครใจ หลังฉีดจะมีคิวอาร์โคดให้ประเมินผลข้างเคียงและให้ความรู้การดูแลหลังฉีด
หากมีผลข้างเคียงสามารถเข้าโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือติดต่อมายังสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีผ่านทางไลน์และสายด่วน 1415 ซึ่งมีการจัดระบบทางด่วนในรายที่สงสัยรุนแรงเพื่อเข้ารับการดูแลต่อไป