เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการแถลงข่าว “การฝากครรภ์คุณภาพสำหรับประเทศไทย” กระทรวงสาธารณสุขได้มีการพัฒนาและยกระดับการฝากครรภ์สำหรับประเทศไทย ซึ่งมุ่งเน้นกิจกรรมบริการที่สำคัญให้เป็นไปตามมาตรฐานสอดคล้องตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก
เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ทุกคน สามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพและเท่าเทียม โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในการปรับค่าชดเชยกิจกรรมบริการฝากครรภ์ตามชุดสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการที่กรมอนามัยได้ร่วมประชุม กับผู้เชี่ยวชาญจากโรงเรียนแพทย์ ผู้แทนจากราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย แพทย์และพยาบาลที่ให้บริการคลินิกฝากครรภ์
เพื่อทบทวนและพัฒนายกระดับบริการฝากครรภ์คุณภาพ โดยมุ่งเน้นกิจกรรมบริการที่สำคัญให้เป็นไปตามมาตรฐานสอดคล้องตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกนั้น ขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบโดยคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็กแห่งชาติ จากการประชุมเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 เรียบร้อยแล้ว โดยในปี 2565 การยกระดับบริการฝากครรภ์มุ่งเน้น 3 ประเด็น ดังนี้
1) การบริการฝากครรภ์คุณภาพตามแนวทางวิถีชีวิตใหม่ โดยเน้น ส่งเสริม สนับสนุน ให้หญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ และฝากครรภ์ต่อเนื่องตามเกณฑ์ฝากครรภ์ 8 ครั้ง
2) หญิงตั้งครรภ์ต้องได้รับบริการตามกิจกรรมที่กำหนดไว้ในแต่ละช่วงอายุครรภ์อย่างครบถ้วนตามแนวทางการฝากครรภ์คุณภาพสำหรับ ประเทศไทย พ.ศ. 2565
3) จัดเครือข่ายบริการฝากครรภ์และมีระบบส่งต่อไปยังสถานบริการที่มีศักยภาพ ทั้งนี้ เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ทุกคน ทุกสิทธิ ได้รับบริการฝากครรภ์ที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม”
นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สิทธิประโยชน์บริการดูแลการฝากครรภ์ เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งให้แก่หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นคนไทยทุกสิทธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
กิจกรรมบริการที่หญิงตั้งครรภ์จะได้รับ เป็นไปตามแนวทางการดูแลหญิงตั้งครรภ์แนวใหม่ขององค์การอนามัยโลกที่กรมอนามัยและราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยแนะนำ โดยในปีงบประมาณ 2565 สปสช.โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้มีการปรับหลักเกณฑ์และแนวทางการจ่ายค่าบริการฝากครรภ์ใหม่
จากเดิมเบิกจ่ายได้จำนวน 5 ครั้ง เป็นไม่จำกัดจำนวนครั้งของการฝากครรภ์ กล่าวคือ เบื้องต้นเป็นไปตามแนวทางการบริการฝากครรภ์หญิงตั้งครรภ์ของกรมอนามัย จำนวน 8 ครั้ง และหากแพทย์ที่ดูแลพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความจำเป็น ก็สามารถนัดมาตรวจติดตามเพื่อดูแล มากกว่า 8 ครั้งได้
ปีงบประมาณ 2565 คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้มีมติปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้สามี/คู่ของหญิงตั้งครรภ์ทุกราย ให้ได้รับการตรวจคัดกรองโรคซิฟิลิสและโรคธาลัสซีมียพร้อมกับหญิงตั้งครรภ์
เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อจากสามีสู่หญิงตั้งครรภ์และส่งผลต่อทารกในครรภ์ สามารถเข้ารับบริการได้กับหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพทุกแห่งที่สะดวก สุดท้ายนี้ ในการไปรับบริการฝากครรภ์ ขอแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ทุกท่าน ได้ไปรับบริการฝากครรภ์ที่หน่วยบริการที่อยู่ใกล้บ้าน
หรือที่สะดวกในการไปใช้บริการเป็นการประจำ ณ หน่วยบริการแห่งเดิมอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรเปลี่ยนหน่วยบริการฝากครรภ์หลายแห่ง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการดูแลครรภ์ที่ต่อเนื่องต่อไป