นพ.พงศกร จินดาวัฒนะ ผอ.อาวุโสด้านการสื่อสาร บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Pongsakorn Chindawatana ระบุว่า
หลังปีใหม่เป็นต้นมาสถานการณ์โควิด 19 กลับมาเข้มข้นขึ้นอีกครั้ง โอมิครอนกำลังบุกหนัก ตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังติด จะทำยังไงดี
เข็มสามมาแล้ว ควรฉีดไหม ถ้าฉีด ฉีดอะไรดี
มีคำถามเกี่ยวกับโควิด และวัคซีนอยู่ไม่ใช่น้อย
วันนี้ผมขออนุญาตนำข้อสงสัยต่างๆ มาสรุปและเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
1. ฉีดวัคซีนไปสองเข็มแล้ว บางคนก็สามเข็มแล้ว ทำไมยังติดโควิดได้
ติดได้ครับ เพราะวัคซีนที่เราฉีดกันอยู่ในตอนนี้ ไม่ว่าจะยี่ห้อใด ล้วนแต่ผลิตมาจากไวรัสรุ่นแรกๆ ตอนนี้ไวรัสมีการกลายพันธุ์ไปเยอะแล้ว
หน้าตาของไวรัสตัวปัจจุบันนี้ไม่เหมือนตัวแม่ที่อู่ฮั่นอีกต่อไป
ภูมิคุ้มกันร่างกายจึงอาจจะจดจำไวรัสรุ่นใหม่ไม่ได้
พอเจอตัวกลายพันธุ์เข้าไป จึงทำให้ติดเชื้อได้
และอีกอย่างที่สำคัญมากๆ ที่เราทุกคนไม่ควรลืมคือ วัคซีนทุกแพลตฟอร์ม ไม่มีตัวไหนสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100%
แต่วัคซีนทุกชนิด ทุกยี่ห้อทำหน้าที่สำคัญเหมือนๆ กัน คือ ป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรง และลดอัตราตายลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
2. จำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็ม 3 และ 4 หรือไม่
คำตอบคือ จำเป็นครับ ถึงแม้วัคซีนจะกันติดไม่ได้ 100 % แต่วัคซีนจะกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันของเราอยู่ในระดับสูง
จำเป็นต้องฉีด แม้ว่าโอมิครอนมีการกลายพันธุ์จากเดิมไปมาก การรักษาระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สูง เป็นสิ่งจำเป็น
สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้วสองเข็ม สามเข็ม ไม่ว่าจะเป็นสูตรใด จึงควรจะต้องรับวัคซีนเข็มกระตุ้นครับ
3. ถ้าต้องรับเข็มกระตุ้น ควรฉีดตัวไหน ฉีดเมื่อไรดี
คำแนะนำคือควรฉีดวัคซีนกลุ่ม mRNA จะเป็นไฟเซอร์ หรือโมเดิร์นนาก็ได้ครับ สองชนิดนี้เป็น mRNA ทั้งคู่ มีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน
ที่เราต้องใช้กลุ่ม mRNA เนื่องจากวัคซีนกลุ่มนี้ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอนได้ดีกว่าเชื้อตายหรือวัคซีนที่ผลิตโดยเทคโนโลยีอื่น
สำหรับผู้ที่กังวลใจ ไม่อยากฉีดวัคซีนกลุ่ม mRNA ยังสามารถเลือกเป็นกลุ่ม Virus vector หรือ AZ ได้เช่นกันครับ
และสำหรับผู้ที่ต้องการลงทะเบียนวัคซีนเข็มกระตุ้น ต้องคอยตามข่าวนะครับว่ามีของที่ไหนบ้าง
ส่วนมากแล้ว ในหมอพร้อมจะมี sms ให้ไปรับวัคซีนที่เดิม ที่เราเคยได้เข็มหนึ่งและเข็มสองครับ
ส่วนเรื่องระยะเวลานั้น เข็มกระตุ้นสามารถฉีดห่างจากเข็มสุดท้ายตั้งแต่สามถึงหกเดือนขึ้นไป
4. แล้วเด็กๆ ล่ะครับ เด็กๆควรต้องฉีดวัคซีนหรือไม่
เด็กๆ ควรต้องฉีด หลังจากที่โอมิครอนระบาดหนัก เราพบว่า เด็กเล็กที่ไม่ได้รับวัคซีน มีการติดเชื้อสูงขึ้นจนน่าตกใจ
แม้จะไม่มีอาการรุนแรงมากแต่ก็ไม่ควรเสี่ยงครับ เพราะเมื่อติดโควิดแล้วอาจจะทำให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้อีกมากมาย
ในช่วงแรกของการระบาด ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำให้เด็กฉีด เนื่องจากข้อมูลยังไม่มากพอ
แต่ถึงวันนี้ มีข้อมูลเพียงพอแล้วที่จะบอกว่า การฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก มีประโยชน์คุ้มค่ามากกว่าปล่อยให้เด็กติดเชื้อ
เมื่อฉีดแล้ว เด็กๆ ก็สามารถกลับไปโรงเรียนได้โดยผู้ปกครองสบายใจมากขึ้น ตัวของเด็กๆเองก็ปลอดภัยมากกว่าไม่ได้ฉีด
อ้างอิง : https://www.cdc.gov/.../recommendations/children-teens.html
5. ถ้าเด็กๆ ต้องฉีดวัคซีน ควรต้องฉีดวัคซีนอะไร
วัคซีนที่เหมาะสำหรับเด็กๆ และได้รับการรับรองในระดับสากลแล้วคือ วัคซีนไฟเซอร์
ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการและอาหารได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี เรียบร้อยแล้วครับ
วัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนคือ ไฟเซอร์
การฉีดวัคซีนนี้ไม่ใช่ข้อบังคับ แต่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครองครับ และคาดว่าจะเริ่มฉีดได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป
6. ในเมื่อโอมิครอนไม่รุนแรง งั้นปล่อยให้ติดๆไปเลยดีไหม เบื่อมาก ไม่อยากระวังตัวแล้ว
ไม่แนะนำให้ปล่อยตัวเองให้ติดเชื้อครับ ที่ไม่แนะนำเพราะว่า
- ที่ว่าสายพันธุ์โอมิครอนไม่รุนแรงมาก...นั่นก็จริงอยู่
แต่ว่าโควิดไม่ใช่หวัด ยังไงก็ทำให้เกิดอาการรุนแรงได้มากกว่าหวัด
และวันสองวันมานี้ก็มีผู้ติดเชื้อโอมิครอนเสียชีวิตแล้วด้วย
ฉะนั้น อย่าประมาทโอมิครอนเกินไปฮะ
- และการติดเชื้อโควิด ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเรามากในทุกๆระบบ ระยะยาวอาจมีผลต่อการดำเนินชีวิตอยู่ดี เช่น
เป็นนักวิ่งเทรล เคยวิ่งได้ทีละ 10-20กิโล ถ้าเกิดติดโควิดเข้าไป สมรรถภาพของปอดอาจไม่เหมือนเดิม วิ่งได้น้อยลง เหนื่อยง่ายขึ้น เป็นต้น ดังนั้น อย่าเสี่ยงเลยครับ
- โควิด คือ ไวรัสสายพันธุ์โคโรนา มีความสำคัญคือ ติดแล้วก็ติดได้อีก ไม่ใช่เป็นแล้วจะไม่เป็นอีกนะครับ เหมือนกับเวลาเราเป็นหวัด หายแล้ว ก็ยังสามารถติดหวัดได้อีก เป็นต้น
7. คนที่ติดเชื้อ ตรวจแล้วพบว่า ATK เป็นบวก จะทำยังไงดี
ถ้า ATK ผลบวก แนะนำให้รับประทานฟ้าทะลายโจรไปเลย ให้ได้ปริมาณ Andrographolide วันละ 180 มก.
สามารถดูที่ฉลากข้างขวดได้นะครับว่าฟ้าทะลายโจรยี่ห้อที่เราซื้อไปนั้นมีสารนี้อยู่แคปซูลละเท่าไร ยกตัวอย่าง เช่น ยี่ห้ออ้วยอันมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ เม็ดละ 20 มก.
แปลว่าเราต้องกินวันละ 9 เม็ด
ให้แบ่งกินมื้อละสามเม็ด สามมื้อเช้ากลางวันและเย็น เป็นต้น
ระยะเวลารับประทานยาแค่ 5 วัน ครบห้าวันแล้วต้องหยุด
และถ้าหากอาการแย่ลง เช่น ไอมาก แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย ไข้สูง แบบนี้ให้รีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุดครับ
8. ยาต้านไวรัสปัจจุบัน ยังใช้ฟาวิพิราเวียร์เป็นยาหลักอยู่
ยากลุ่มโมโนโคลนอล เช่น โมลนูพิราเวียร์ก็ยังมีใช้ในสถานพยาบาลใหญ่ๆ และกรณีที่หลายคนกังวลว่าไวรัสจะมีการดื้อยาหรือเปล่า ตอนนี้มียากลุ่มใหม่ได้รับการรับรองให้ใช้ในผู้ป่วยโควิด 19 ออกมาอีกสองชนิดได้แก่
- บาริซิทินิบ (Baricitinib) เป็นยากลุ่มยับยั้งเอนไซม์ Janus Kinase ใช้สำหรับผู้ป่วยโควิดที่มีอาการรุนแรงมากๆ
- โซโตรวิแมบ (Sotrovimab) เป็นยากลุ่มโมโนโคลนอล ใช้ในผู้ป่วยติดเชื้อที่อาการเล็กน้อยหรือปานกลางครับ
9. มันจะจบไหม จะจบลงเมื่อไร โอมิครอนใช่คำตอบหรือเปล่า
มันจะจบ แต่ช้าหรือเร็วอยู่ที่พวกเราทุกคน ไม่ได้อยู่ที่โอมิครอน เมื่อไวรัสยังกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา หมดจากโอมิครอนก็อาจจะมีกลายพันธุ์ตัวใหม่มาแทน
ยังไม่นับว่าสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป อาจเกิดการระบาดของไวรัสอื่นๆ หรือโรคอื่นๆ มาอีกเรื่อยๆ ในอนาคต
ดังนั้น ถ้าอยากให้มันจบไว ก็เริ่มที่ตัวเราครับ จัดการตัวเราให้ดี อย่าให้ตัวเราป่วย นั่นละจะช่วยได้ ผมแนะนำว่า
- ทุกคนยังคงต้องรักษามาตรการทางสาธารณสุขอย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าเราจะฉีดวัคซีนไปแล้วก็ต้องระวังตัวต่อ เพราะวัคซีนกันตาย ไม่ได้กันติด ท่องเอาไว้
- บริหารจัดการความเครียด การเงิน และการงานให้ดี ช่วงนี้เป็นช่วงยากลำบาก เป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของตัวเรา และโลกใบนี้
ความเดือดร้อนไม่ใช่เกิดเฉพาะตัวเรา แต่เป็นทั้งโลก เป็นกันทุกคน จะมากจะน้อยก็โดนกันถ้วนหน้า การก่นด่า การสาดความโกรธ พ่นความหงุดหงิดไปทั่ว ผมมองว่ามันไม่ช่วยอะไรจริงๆหรอก เรามาใช้สติกัน เก็บพลังเอาไว้ทำอย่างอื่นดีกว่านะครับ