8 มกราคม 2565 เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดศรีสะเกษ นำโดย นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ เข้าตรวจสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง กลางใจเมืองศรีสะเกษ เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรการฉุกเฉิน การเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ตามประกาศของจังหวัด
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯศรีสะเกษ ออกคำสั่งห้ามการนั่งดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอร์ฮอร์ในสถานบันเทิง ต้องมีการเว้นระยะห่าง มีการคัดกรอง จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการภายในร้าน ต้องไม่แออัด ภายหลังจากพบว่า ก่อนหน้านี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ในจังหวัดใกล้เคียงที่ติดกับจังหวัดศรีสะเกษ จากคลัสเตอร์สถานบันเทิง กว่า 500 คน
จากการเข้าตรวจสถานบันเทิง ร้านอาหารในคืนนี้ พบว่าร้านดังกล่าว ที่เปิดเป็นผับ สถานบันเทิง ได้ปล่อยให้นักท่องเที่ยว เข้าไปโดยไม่มีการคัดกรอง ไม่จำกัดจำนวน พร้อมปล่อยให้นั่งดื่มกันอย่างสบายใจ ไม่มีการเว้นระยะห่าง และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอออร์ มั่วสุมกันเป็นจำนวนมากกว่า 100 คน ในสถานที่แออัดคับแคบ จึงได้เข้าตรวจจับเจ้าของร้าน และบันทึกทำประวัตินักเที่ยวทุกคน เข้ารับการสอบสวน พร้อมเสนอออกคำสั่งปิดสถานบันเทิงดังกล่าวทันที
นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตอนนี้พบว่าในจังหวัดข้างเคียงศรีสะเกษ มีผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 จากสถานบันเทิงเช่นนี้เป็นจำนวนมาก และจังหวัดศรีสะเกษ ของเราก็มีแนวโน้มที่มีผู้ที่ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวัน และจากการประชุมของคณะ ศบค.และกระทรวงสาธารณสุข ได้ยกระดับของการเตือนภัย
ส่วนหนึ่งก็คือมาตรการที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาด คือ มีการรวมกลุ่มที่ไม่ปฎิบัติตามมาตรการป้องกัน โดยเฉพาะในกลุ่มร้านอาหาร สถานประกอบการ ได้มีการปล่อยปละละเลยให้มีการดื่มแอลกอฮอร์ โดยท่านผู้ว่าฯ ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปกครอง ตำรวจ ออกตรวจในร้านอาหารต่างๆ ว่าได้ปฎิบัติตามมาตรการหรือไม่ โดยเฉพาะการห้ามดื่มแอลกออฮอร์
จากการตรวจสอบที่พบในร้านก็คือ ทางร้านได้ฝ่าฝืน ทั้งการปล่อยให้นักเที่ยวเข้าไปภายในร้านโดยไม่มีการคัดกรอง การนั่งตามโต๊ะไม่มีการเว้นระยะ ภายในไม่มีการจัดเจลแอลกอฮอร์ให้ล้างมือ และเท่าที่ตรวจ นักเที่ยวภายในร้านค่อนข้างเยอะมาก ร้านปล่อยให้เข้าเยอะ และในโต๊ะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ แสดงว่าผู้ประกอบการ และนักเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการ มีการฝ่าฝืนให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์กันได้
"อันนี้สุ่มเสี่ยงมาก เพราะเมื่อดื่มก็จะต้องเปิดหน้ากาก โอกาสที่จะมีการติดเชื้อหากมีผู้ติดเชื้อเข้าไปใช้บริการพร้อมกันในขณะนั้น จะทำให้มีการแพร่กระจายเชื้อสู่คนจำนวนมากสูง"
นายสำรวย กล่าวอีกว่า จังหวัดจะต้องตรวจร้านอาหารทุกแห่ง ที่เปิดให้บริการในลักษณะแบบนี้ ว่ามีการฝ่าฝืนอีกหรือไม่ เพราะเป็นการดำเนินการสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 และหากร้านใดฝ่าฝืนก็ต้องมีความตามกฎหมาย ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งของจังหวัด และฝ่าฝืนตาม พรบ.ฉุกเฉิน
"อยากจะฝากทุกร้าน ในการให้ความร่วมมือในการปฎิบัติตามคำสั่งของจังหวัด เพราะเราจะต้องยึดถือประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ไม่เช่นนั้นหากเกิดคลัสเตอร์ขึ้นมา โอกาสที่จะกระจายเชื้อไปสู่ประชาชนก็สูง โดยวันนี้ได้ดำเนินคดีกับเจ้าของร้านที่ปล่อยให้นักเที่ยวได้กระทำความผิดตามคำสั่งจังหวัด และ พรบ.ฉุกเฉิน ตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ในการให้ดื่มสุรา ส่วนผู้ที่เข้ามาก็มีข้อหาการมั่วสุ่มรวมกัน ต้องดำเนินคดีทั้งสองฝ่ายด้วย"
ข่าวและภาพ : พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์