29 ธันวาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงแรงงาน แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อัตราเงินที่จะจ่าย และระยะเวลาการจ่ายกรณีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease (COVID-19)) พ.ศ.2564
โดยปรับเพิ่มอัตราเงินสงเคราะห์ให้กับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างและไม่ได้รับค่าชดเชยจากนายจ้างในช่วง 1 มีนาคม 2563 – 28 กุมภาพันธ์ 2565 ตามข้อสั่งการของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมทั้งพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน
ทั้งนี้จากรายงานจาก กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ระบุว่าช่วงตั้งแต่วันที่ระเบียบนี้เริ่มมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 จนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2564 มีลูกจ้างมาใช้สิทธิขอรับเงินสงเคราะห์จากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างแล้วทั้ง 2 กรณี จำนวน 2,864 คน เป็นเงิน 24,166,404.40 บาท เป็นกรณีค่าชดเชย จำนวน 1,927 คน เป็นเงิน 19,281,292.13 บาท และกรณีเงินอื่นฯ จำนวน 937 คน เป็นเงิน 4,885,112.27 บาท
ในจำนวนนี้มีลูกจ้างจาก 2 บริษัทที่เกี่ยวข้องจำนวนมากได้แก่
“ ลูกจ้างที่มายื่นเรื่องขอใช้สิทธิจะได้รับเงินสงเคราะห์เพิ่มขั้นต่ำคนละ 9,390 บาท เป็นของขวัญปีใหม่นี้แน่นอน ”
ด้าน นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างฉบับนี้ กำหนดเป็นการเฉพาะกรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ลูกจ้างที่ถูกนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยหรือเงินอื่นนอกจากค่าชดเชย ได้แก่ ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด เป็นต้น เพราะเหตุที่นายจ้างไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ และพนักงานตรวจแรงงานมีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยหรือเงินอื่นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
ลูกจ้างสามารถมายื่นเรื่องขอรับเงินสงเคราะห์เพิ่มเติมได้ ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-10