หลังจาก การปรับมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย จากมติล่าสุด ของ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 64 - 4 ม.ค. ระงับการลงทะเบียนชั่วคราวประเภท Test & Go และ Sandbox สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ยกเว้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ‘โอมิครอน’ (Omicron) ปรับใช้มาตรการ ‘กักตัว’ ในระบบสถานที่กักตัวทางเลือก (AQ/ Alternative Quarantine) หรือ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7 วัน
ผู้เดินทางถึงประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 64 เวลา 01.00 น. เป็นต้นไป ต้องตรวจหาเชื้อโควิดครั้งแรก ด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง คือ วันแรกที่เดินทางเข้าประเทศ และวันที่ 7 โดยการตรวจครั้งที่ 2 รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ประชุมชี้แจงผู้เกี่ยวข้อง เรื่องการปรับมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทยจากมติล่าสุด ของ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 64 - 4 ม.ค. 65 เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันของทั้งภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ‘โอมิครอน’ (Omicron)
ทั้งนี้ คนลงทะเบียน Thailand Pass สำหรับการเข้าประเทศไทย แบบ Test & Go ไว้แล้ว (ลงทะเบียนภายในวันที่ 22 ธ.ค. เวลา 00.00 น.) สามารถเข้าประเทศตามมาตรการที่ได้รับอนุมัติ และจะต้องปฏิบัติตามแนวทาง ดังนี้
1.คนที่ลงทะเบียนแล้วและได้รับอนุมัติสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ตามมาตรการที่ได้รับอนุมัติ
2. ผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว และกำลังรอการพิจารณาขอให้รอการพิจารณา Thailand Pass QR Code หากได้รับอนุมัติจะเดินทางเข้าประเทศไทยได้ตามมาตรการที่ได้รับอนุมัติ
3. ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบการกักตัว (AQ) และรูปแบบ Sandbox ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตสามารถลงทะเบียนได้ตามปกติ
4.ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยแล้วหรือได้รับอนุมัติให้เดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบ Test & Go และ Sandbox จะต้องเข้ารับการตรวจเชื้อครั้งที่ 2 โดยวิธี RT-PCR (จากเดิม ATK) ณ สถานที่ที่ทางราชการกำหนดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ลงระบบ Thailand Pass (ภายในวันที่ 22 ธ.ค. เวลา 00.00 น.) นับจากวันที่ 22 ธ.ค. 64 - 4 ม.ค.65 สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ด้วยวิธีการ เข้าระบบสถานที่กักตัวทางเลือก (AQ) หรือ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ทั้งนี้ยังพิจารณาผู้เดินทางจาก 63 ประเทศ
ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox)
เงื่อนไข/กฎเกณฑ์ ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยในโครงการ Sandbox ในจังหวัดภูเก็ต
- นักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม
-ต้องตรวจหาเชื้อโควิดครั้งด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง
-เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยต้องตรวจหาเชื้อโควิดครั้งแรก ด้วยวิธี RT-PCR และรอผลภายใน 24 ชั่วโมง หากไม่พบการติดเชื้อ สามารถเดินทางเข้าพักที่โรงแรมที่ได้จองไว้
-จากนั้น ในวันที่ 5 หรือ 6 ตรวจหาเชื้อโควิดครั้งที่ 2 ด้วยวิธี RT-PCR หากไม่พบการติดเชื้อ สามารถเดินทางได้ทั่วเกาะภูเก็ต
-ระหว่างอยู่ในโครงการ ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน หมอชนะ / ไทยชนะ และสแกน เช็กอินทุกครั้ง
-อยู่ภูเก็ตครบ 7 วัน หากไม่มีอาการ ผลติดเชื้อเป็นลบ สามารถเดินทางออกนอกพื้นที่ได้
คนไทยเข้าร่วมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้หรือไม่?
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
- สำหรับการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยและเข้าร่วม Phuket Sandbox ผู้เดินทางจะต้องยื่นขอ Thailand Pass เพื่อใช้ในเดินทางเข้าประเทศเช่นเดียวกับทุกคนที่เดินทางมาประเทศไทยในช่วงการระบาดของโควิด-19
-ผู้เดินทางทุกคนต้องมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง (Certificate of Vaccination) โดยวัคซีนจะต้องขึ้นทะเบียนตามกฎหมายของประเทศไทย หรือได้รับการรับรองโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และต้องส่งหลักฐานการฉีดวัคซีนเมื่อลงทะเบียน Thailand Pass
-ผู้เดินทางจะต้องแสดงหลักฐานการจองโรงแรม SHA Plus (SHA+) และหลักฐานการชําระค่าโรงแรมล่วงหน้า โดยระบุระยะเวลาการเข้าพักไม่ต่ำกว่า 7 คืน
-หลักฐานการการจองตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งจองผ่านระบบ Phuket Swab Appointment System (PSAS)
-ตั๋วเครื่องบินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศไปภูเก็ต
-ในการเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวยังคงจะต้องแสดงหนังสือยืนยันว่าไม่มีเชื้อโรคโควิด - 19 (COVID-19 Free Certificate) ที่ออกให้ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางถึงประเทศไทย
โครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) เริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วสามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว
“ภูเก็ต” เป็นจังหวัดแรกของไทยที่มีการดำเนินการตามแผนของโครงการ "แซนด์บ็อกซ์”